เจ้าสำนักเผยนาทีช่วยยายพิการถูก "ไอ้โอ๋" ข่มขืน ก่อนล็อกกุญแจขังไว้ในกระท่อม
เจ้าสำนักเผยนาทีช่วยยาย 79 ปี ถูก "ไอ้โอ๋" ปีนเข้ากระท่อมข่มขืน ก่อนล็อกขัง ขณะที่ตำรวจตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงสิบเวร และต้องติดตามตัวกลับมาให้ได้ภายใน 30 วัน
จากกรณี นางยา อายุ 79 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการขาขวาขาด เข้าไปบวชและปฏิบัติธรรมในสำนักสงฆ์ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ถูกนายอัจฉริยะ หรือ โอ๋ อายุ 24 ปี บุกเข้าไปในห้องพักซึ่งอยู่ภายในสำนักสงฆ์ และข่มขืน โดยคนร้ายได้หลบหนีไปขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวได้แล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มี.ค.) ได้เดินทางไปที่สวนปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ ม.8 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น เพื่อดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งภายในสวนปฏิบัติธรรมนั้น มีการแบ่งพื้นที่ไว้เป็นสัดส่วน
โดยพระที่เป็นเจ้าสำนักสวนปฏิบัติธรรมได้พาผู้สื่อข่าวไปดูจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระท่อมขนาดกว้าง 4X4 เมตร สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร กระท่อมหลังดังกล่าว มีเหล็กดัด และผ้าล้อมรอบไว้อย่างดี ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของสวนฏิบัติธรรม ภายในกระท่อมมีที่นอน พัดลม และเครื่องครัว หม้อหุงข้าว กระทะ วางไว้อย่างเป็นระเบียบ ส่วน นางยา ทราบว่า ลูกสาวรับกลับบ้านแล้ว
เจ้าสำนัก กล่าวอีกว่า นางยาเป็นโยมที่ชอบมาปฏิบัติธรรมที่สวนปฏิบัติธรรมหลายปีแล้ว เป็นผู้พิการขาขวาขาด และได้ตัดสินใจบวช เพื่อปฏิบัติธรรมที่สวนปฏิบัติธรรมมาได้ 3 ปีแล้ว ลูกหลานจึงสร้างกระท่อมแบบง่ายๆ ให้พัก ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา
กระทั่งมี นายอัจฉริยะ หรือ โอ๋ ซึ่งเป็นลูกจ้างของชาวสวน ที่มาปลูกพืชที่เชิงเขาภูเม็ง มาพักอาศัยอยู่ไม่ห่างจากสวนปฏิบัติธรรม มาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 13 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงตีหม้อจากกระท่อมของนางยา พระสงฆ์ในวัด รวม 4 รูป จึงตื่นและมาที่กระท่อม จึงทราบว่า มีคนร้ายปีนกระท่อมเข้าไปข่มขืนนางยา แล้วเอาลูกกุญแจไปและล็อกกุญแจจากด้านนอก ไม่ให้นางยาออกมาจากกระท่อมได้
เมื่อทราบรายละเอียด จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ จากนั้นมีการแจ้งตำรวจและแจ้งให้ลูกหลานของนางยา เอากุญแจสำรองมาเปิด ช่วยเหลือนางยาออกจากกระท่อม และไปแจ้งความที่สภ.หนองเรือ
และในช่วงสายของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ควบคุมตัวคนร้ายได้ เอาตัวมาชี้จุดที่ก่อเหตุ ซึ่งเห็นคนร้ายชี้จุดที่ปีนเข้าไปในกระท่อม โดยคนร้ายใช้เท้าเหยียบเหล็กดัดมุปีนขึ้นไปดใต้ชายคาเข้าไปด้านใน จากนั้นทำการข่มขืนนางยา แล้วหลบหนีไปพร้อมลูกกุญแจ
ด้าน พ.ต.อ.ภพกร กวินโยธิน ผกก.สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวนั้น ควบคุมตัวได้หลังเกิดเหตุจริง ซึ่งขณะถูกควบคุมตัว นายโอ๋ พาไปชี้จุดที่ตัวเองก่อเหตุจริง แต่เมื่อถึง สภ.หนองเรือ พนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำ นายโอ๋ให้การปฏิเสธ
ฉะนั้นในขั้นตอนของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น หากสอบสวนแล้วผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ก็ต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐาน รอผลตรวจร่างกายของนางยาจากแพทย์ รวมถึงการตรวจดีเอ็นเอเพื่อเก็บหลักฐาน จากนั้นจึงจะมีการขอศาลจังหวัดชุมแพ ออกหมายจับนายโอ๋ เพราะกรณีดังกล่าวไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนายโอ๋ในข้อหาข่มขืนได้
แต่ลักษณะและพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่าเสพยาเสพติด จึงตรวจปัสสาวะและพบปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงจับกุมนายโอ๋ ในข้อหาเสพยาเสพติดและคุมขังไว้ที่ห้องควบคุม สภ.หนองเรือ และขณะที่พนักงานสอบสวนเบิกตัวออกจากห้องควบคุม เพื่อมาสอบสวนเพิ่มเติมในคดีเสพยาเสพติดและคดีข่มขืน นายโอ๋ก็หลบหนีไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ได้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ทั้งในส่วนของพนักงานสอบสวนที่เบิกตัวผู้ต้องหา และสิบเวรยามด้วย เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงกับกรณีที่นายโอ๋หลบหนีไปในครั้งนี้
เบื้องต้น ทั้งพนักงานสอบสวน และสิบเวรยามต้องทำการติดตามตัวนายโอ๋ กลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายในทุกข้อหาภายใน 30 วัน หากไม่สามารถดำเนินการได้จะมีการพิจารณาโทษทางวินัย ตามขั้นตอนต่อไป