"เคลลี่" ยอมรับ ปิดฉากรักภรรยา "นาย ชนุชตรา" ตอนนี้แยกทางกันแล้ว
มีกระแสข่าวลือออกมาสะพัด สำหรับพระเอกหนุ่มรุ่นใหญ่ เคลลี่ ธนะพัฒน์ กับภรรยาสาว นาย ชนุชตรา โดยมีข่าวเม้าท์ว่าทั้งสองขาเตียงสั่นคลอน ตอนนี้ได้แยกกันอยู่และกำลังจะยุติความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาลงในเร็วๆ นี้
ล่าสุด เคลลี่ ธนะพัฒน์ ได้ตัดสินใจตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่า ตอนนี้เลิกรากับภรรยาสาวตามที่ข่าวออกมาจริง โดยเป็นการตัดสินใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เพราะปัญหาสะสมต่างๆ ที่มีมานาน พร้อมยืนยันไม่มีเรื่องของมือที่สามแน่นอน
"หลายๆ คนถามก็เป็นเรื่องจริงครับ เราแยกทางกัน ห่างกันมา 3 เดือนแล้ว ระหว่างนี้พยายามปรับจูนแก้ปัญหา แต่วันหนึ่งก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องแยกทางกัน"
"ก่อนนี้เราคบกันมา 3 ปี แต่งงาน 2 ปี แต่พอได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมันมีเรื่องของความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ไลฟ์สไตล์ ช่องว่างของอายุ ปัญหาสะสม เราก็คุยและพยายามที่จะแก้ไข เลยคุยกันว่าถึงเวลาที่จะถอยแล้ว"
"เราก็พยายาม แต่อาจจะด้วยผมทำงานหนักด้วย เลยไม่มีเวลาได้เจอกันเท่าไหร่ อยู่บ้านก็พยายามแล้วว่าจะดีขึ้นไหม ไม่ใช่แค่วันดีคืนดีที่ตัดสินใจร่วมกัน มันมีช่วงที่ปรับจูน"
"เป็นการจัดสินใจระหว่างเราทั้งคู่ครับ มันเป็นหลายๆ เรื่องที่สะสมมา ก็พยายามแล้วครับ"
"คนไปตีความว่าเรามีคนอื่น คือน้องนายชอบใช้คำที่คนเขาชอบใช้ พวกคำคมอะไรแบบนี้ อย่าไปสนใจตรงนั้นเลยครับ ผมไม่ได้ใส่ใจตรงนั้น ถ้าถามเรื่องมือที่สามผมยืนยันทั้งสองฝั่งไม่มีแน่นอน ผมอยู่ในวงการมา 20 กว่าปีแล้ว คบกับใครก็คบคนเดียว ไม่เคยคบซ้อน ไม่มีมือที่สามแน่นอน"
"ณ วันนี้ได้ตัดสินใจว่าเราแยกทางแล้ว อยู่แบบเป็นพี่น้องดีกว่า ในเมื่อเราปรับจูนและเข้าหากันไม่ได้ เราได้พูดคุยกัน ผมก็เป็นฝ่ายแยกออกมาครับ"
"บ้านมันเป็นของน้อง เราช่วยในการต่อเติม เราไม่ติดใจอะไรเพราะเป็นผู้ชาย ก็แค่ขนของเราออกมา"
"สภาพจิตใจตอนนี้ก็ลำบากครับ มันเป็นเรื่องที่ทำใจยาก"
"พอแยกออกมาก็ได้คุยกับคุณแม่ครับ น้องนายทำงานหนักเหมือนกันเลยไม่ค่อยได้คุย"
"เสียดายไหม คือผมตั้งใจมากกับการใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้ เราตัดสินใจแต่งงานก็อยากจะอยู่กับคนนี้ตลอด แต่มันก็ยากครับ"
"กับน้องนายก็เป็นห่วงเป็นใยตลอด แต่เขาถ่ายละครเราก็ไม่ได้คุยกับเขา แต่ก็คุยกับคุณแม่เขา"
"ถามว่ามูฟออนเลยไหม เราเพิ่งย้ายออกมา ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย การแต่งงานคือเราตั้งใจมาก อยากมีครอบครัว แต่พอมีเหตุการณ์แบบนี้มันก็ยากครับ เราก็นึกถึงแค่สิ่งดีๆ ที่เคยผ่านมาด้วยกัน เรามีเรื่องดีมากกว่าเรื่องแย่ เรายังมีเพื่อนฝูงและครอบครัว ครอบครัวเขาก็ดีมาก รักผมเหมือนลูกคนหนึ่ง ผมต้องขอบคุณที่ทำให้ที่โอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขา"
"ผมไม่เสียดายเลยนะ มันไม่มีอะไรน่าเสียดาย เรื่องดีๆ มันมีเยอะ เรายังสามารถพบปะพูดคุยกันได้ เพราะมันเป็นการตัดสินใจร่วมกัน ให้ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตอยู่คนเดียวก่อน"
"เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส เราเคยไปเขตแล้วแต่ไม่ได้จดเพราะผมมีสัญชาติอเมริกา ต้องไปสถานทูตก่อน แล้วมาติดช่วงโควิดอีกเลยไม่ได้ไป"
"ผมก็เป็นห่วงเขาในหลายๆ เรื่อง ถึงแม้เราอาจจะห่างกันมา 3 เดือนแต่เราก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน แค่แยกห้องอยู่ มีอะไรช่วยเหลือและคุยได้ แต่วันนี้ได้ออกมาอยู่คนละที่แล้ว มันก็คิดครับ"
"เสียน้ำตาบ้างไหม ก็ต้องมีครับ"
"สุดท้ายขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกกำลังใจทั้งสองฝ่ายเลยนะครับ อย่าไปคิดว่าคนสองคนที่ต้องมาแยกทางกันมันเป็นเรื่องน่าสนใจ มันเป็นเรื่องที่เจ็บทั้งคู่ครับ ผมไม่อยากให้คิดไปในแง่ลบ เพราะมันกระทบกระเทือนจิตใจทั้งคู่ แค่นี้ก็เสียใจมากแล้ว แต่ก็ได้กำลังใจเยอะจากแฟนๆ ด้วย"
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ
