ตร.แถลงม็อบแรง คุมเหตุยึดกฎหมาย จนท.เจ็บ 50 นาย ขอโซเชียลล่ามือปาระเบิด #ม็อบ20มีนา

ตร.แถลงม็อบแรง คุมเหตุยึดกฎหมาย จนท.เจ็บ 50 นาย ขอโซเชียลล่ามือปาระเบิด #ม็อบ20มีนา

ตร.แถลงม็อบแรง คุมเหตุยึดกฎหมาย จนท.เจ็บ 50 นาย ขอโซเชียลล่ามือปาระเบิด #ม็อบ20มีนา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจขอมือนักสืบโซเชียล ตามล่ามือปาระเบิดใน ม็อบ20มีนา ทำ จนท. เจ็บกว่า 50 นาย ขณะจับผู้ชุมนุมผิดกฎหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 20 คน

พลตำรวจตรี ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงชี้ แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มรีเด็ม (REDEM) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา 

โดยโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวย้ำว่า การชุมนุมในขณะนี้ ยังอยู่ในการประกาศ ตามพระราชกำหนดฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะ และการใช้เครื่องกีดขวาง เนื่องจากป้องกันความเสียหายต่อสถานที่สำคัญ ส่วนการปฏิบัติของตำรวจเป็น การใช้ยุทธวิธีตามหลัก สากล โดยทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อยับยั้งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ชุมนุมและสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่

ขณะที่ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล สรุปภาพรวมเหตุการณ์การชุมนุม ว่าการชุมนุมเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 17.00 น. เริ่มมีกลุ่มผู้ชุมนุม ชุมนุมบริเวณท้องสนามหลวง และบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาเวลา 17.35 นาที ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าการชุมนุมเข้าข่ายความผิดกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ตำรวจออกนอกพื้นที่ เวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มรื้อถอนแนวกีดขวาง และร่วมกันเคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ซึ่ง อีกทั้งได้มีการขว้างปาก้อนหิน ลูกแก้วและลูกเหล็ก รวมทั้งประทัดยักษ์โยนเข้าใส่กลุ่มตำรวจ เพื่อพยายามฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม

ซึ่งตำรวจเห็นว่า มีความสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดเพลิงไหม้ในสถานที่สำคัญ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีฉีดน้ำแรงดันสูง และผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้พ้นจากสนามหลวง กระทั่งเวลา 20. 50 นาที ตำรวจสามารถรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวงไว้ได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มแรกที่บริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และกลุ่มที่2 บริเวณแยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตำรวจพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ผู้กระทำผิดในลักษณะเผาทำลายทรัพย์สิน ในหลายจุดเช่น และทุบรถยนต์ของตำรวจเสียหายหลายคัน จนกระทั่งเวลา 00.20 น. ตำรวจสามารถควบคุมเหตุการณ์ไว้ได้ โดยจับกุมผู้กระทำผิดได้ 20 คน ส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันชุมนุมโดยผิดกฎหมาย ความผิดตามพระราชกำหนดฉุกเฉินฯ และความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมโรค

รวมทั้ง ข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองโดยใช้อาวุธและกำลังประทุษร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญามา ตรา 215 วรรค 1 และ วรรค 2 และความผิดฐานต่อสู้ ขัดขวางและทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 และมาตรา 140 ขณะที่บางรายเข้าข่ายความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

ซึ่งนอกจากจับกุมผู้กระทำผิดได้ 20 คน ทางรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขอฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่พบเห็นบุคคลต้องสงสัย ตามภาพในการชุมนุมเมื่อวานนี้ ลักษณะเป็นชาย สวมเสื้อลายสก็อต ที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นผู้ขว้างปาวัตถุคล้ายระเบิดใส่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ที่พบเห็นสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ และสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม

ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ชุมนุมวันที่ 20 มี.ค ที่ผ่านมา มีตำรวจได้รับบาดเจ็บกว่า 50 นาย ในจำนวนนี้มี 11 นาย ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้รับอันตรายจากการโดนก้อนหิน และสะเก็ดประทัดยักษ์ตามร่างกาย

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook