เปิดใจนักเรียนหญิง ม.4 ยอมรับโยนรองเท้าเพื่อนทิ้ง ช็อกถูกพ่อคู่กรณีชักปืนขู่-ตบหน้าบวม
เปิดใจนักเรียนหญิง ม.4 ยอมรับผิดที่โยนรองเท้าเพื่อนทิ้งเพราะหมั่นไส้ ไม่คิดว่าจะถูกพ่อคู่กรณีชักปืนขู่ ตบหน้าบวม
(21 มี.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชีลกำลังให้ความสนใจกับคลิปเหตุการณ์ที่พ่อของเด็กหญิงรายหนึ่ง ขับรถยนต์กระบะเข้ามาที่โรงเรียนและไล่ตามหลัง เด็กหญิงวัย 16 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนจะเอาปืนมาขู่และตบหน้าเด็กหญิง เนื่องจากไม่พอใจที่อีกฝ่ายมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับลูกสาวตนเอง
ล่าสุดวันนี้เวลา 14.00 น. (20 มี.ค.64) นายณภัทร อายุ 36 ปี ผู้เป็นพ่อ ของ น.ส.ดา (นามสมมุติ) นักเรียนชั้น ม.4 ได้นำเอกสารและหลักฐาน พร้อมด้วยลูกสาวที่ถูกทำร้ายร่างกาย เข้าพบร้อยตำรวจเอกสนธยา เย็นใจ เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุที่ปรากฏในคลิป
นายณภัทร พ่อของ น.ส.ดา ผู้เสียหายเล่าว่า จากคลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนในฐานะผู้เป็นพ่อไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจได้ หลังจากที่ลูกสาวโทรมาบอกว่าถูกทำร้าย และ เห็นคลิปภาพเหตุการณ์ลูกสาวถูกผู้ใหญ่ซึ่งเป็นพ่อคนเหมือนกันมาตบหน้า และ ยังด่าทอพูดจาข่มขู่ ที่สำคัญนำอาวุธปืนมาข่มขู่ หากอารมณ์ร้อนใช้อาวุธปืนมายิงลูกสาวตนได้รับบาดเจ็บหรือ ถึงขั้นเสียชีวิตจะทำอย่างไร เรื่องของเด็กก็ต้องว่ากันไปอีกเรื่อง เด็กเขาไม่ถึงกับที่จะฆ่ากันตาย แค่มองหน้ากัน ทะเลาะกันเดี๋ยวก็หาย เลิกรากันไป
อีกอย่างคู่กรณีทราบว่าเป็นอดีตลูกของกำนัน เป็นคนที่มีคนรู้จักมากมายแต่มาทำแบบนี้ ตนก็รับไม่ได้ วันนี้ได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากก่อนหน้าตนจะลงคลิปไป ทางคู่กรณีได้ติดต่อเข้ามาว่าจะเข้ามาขอโทษตนและลูกสาวที่ได้ก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิป แต่ถึงเวลานัดกลับไม่มาตามนัด ส่วนกรณีที่ลูกสาวของตนเอง ได้นำรองเท้าซึ่งเข้าใจว่าเป็นรองเท้าของคู่กรณีทิ้งนั้นตนก็ยอมรับว่าลูกของตนเองผิด ตนก็พร้อมที่จะขอโทษในสิ่งที่ลูกทำไป
ด้าน น.ส.ดา (นามสมมุติ) ผู้ที่ถูกพ่อของเด็กหญิงคู่กรณีตบที่ใบหน้าและข่มขู่ เล่าว่า ตนกับ ลูกสาวของคู่กรณีไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน รู้จักจากกลุ่มเพื่อน โดยก่อนหน้าที่เขามีปัญหากับทางกลุ่มเพื่อนตน ซึ่งตนก็ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าตกใจมาก ยิ่งตอนนี้เอาปืนมาข่มขู่ แล้วเข้ามาตบที่ใบหน้า ตอนนี้หน้ายังรู้สึกเจ็บและบวม ส่วนในเรื่องที่คาดว่าเป็นปมที่ทางพ่อของเขามาทำร้ายนั้น น่าจะมาจากที่ตนเองเอารองเท้าของลูกสาวเขาไปโยนทิ้ง ตนยอมรับว่าตนทำจริง ซึ่งเกิดจากการไม่พอใจที่นักเรียนหญิงคู่กรณีมามองหน้า และทำกิริยาท่าทางเหยียดหยามทั้งเวลาที่เจอกันหรือเดินผ่าน ตนจึงเกิดความหมั่นไส้ และนำรองเท้าไปโยนทิ้ง แต่ก็คาดว่าจะเป็นของอีกคนไม่ใช่ของคู่กรณี แต่นักเรียนคนดังกล่าวได้โทรไปฟ้องกับพ่อของเขาและตามมาทำร้ายตนเอง สร้างความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก วันนี้ตนพร้อมด้วยคุณพ่อเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีตามกฎมายต่อไป