รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เยือนอัฟกานิสถาน หารือถอนทหารอเมริกัน 1 พ.ค.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ พลเอก ลอยด์ ออสติน ประชุมกับประธานาธิบดีอัฟกานิสถาน นายแอชราฟ กานี ที่กรุงคาบุล ในวันอาทิตย์ (21 มี.ค.) หลังจากเพิ่งเยือนอินเดียสองวันก่อนหน้านี้ ซึ่งการเยือนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแผนการเดิมในการเยือนเอเชีย 3 ประเทศ
รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐมนตรีออสตินเดินทางเยือนอัฟกานิสถานครั้งนี้เพื่อรับฟังและเรียนรู้ความประสงค์และความกังวลของผู้นำอัฟกานิสถาน ด้านประธานาธิบดีกานีได้ระบุถึงความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งความพยายามสร้างสันติภาพในอัฟกานิสถาน
รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐยังพบกับบรรดาผู้นำกองกำลังพันธมิตรและกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน เพื่อรับฟังความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับสถานการณ์รวมทั้งความเป็นไปได้ในการถอนทหารอเมริกันออกจากประเทศนี้ตามกำหนดการที่วางไว้ด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่าถอนทหารสหรัฐฯ ภายในวันที่ 1 พ.ค. เป็นเรื่องยาก ทั้งยังกล่าวว่าการถอนทหารออกเท่ากับว่าทหารอเมริกันจะไม่มีบทบาทในอัฟกานิสถานไปอีกยาวนาน แต่นายไบเดนก็ไม่ได้ปฏิเสธทางเลือกในการเพิ่มภารกิจทางทหารในอัฟกานิสถานเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนหลายสำนักในสหรัฐรายงานว่า นายไบเดนตัดสินใจให้มีทหารอเมริกันประจำการในอัฟกานิสถานต่อไปจนถึงเดือน พ.ย. เนื่องจากกลุ่มตาลิบันไม่ได้ทำตามข้อตกลงที่จัดทำไว้เมื่อเดือน ก.พ. ปีที่แล้วในสมัยรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีออสตินปฏิเสธรายงานดังกล่าวระหว่างเยือนอินเดียเมื่อวันเสาร์ โดยบอกว่ายังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ปัจจุบัน มีทหารอเมริกันประจำการในอัฟกานิสถานราว 2,500 คน รวมทั้งทหารพันธมิตรที่นำโดยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อีกหลายพันคน ซึ่งทั้งหมดมีกำหนดถอนกำลังออกจากอัฟกานิสถานในวันที่ 1 พ.ค. ภายใต้ข้อตกลงกับทาลีบาน
ด้านผู้นำกลุ่มตาลิบันออกมาเตือนว่า จะมีการตอบสนองทันทีหากสหรัฐไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว พร้อมยืนยันว่ากลุ่มตาลิบันปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงนั้นอย่างเคร่งครัด แต่สหรัฐระบุว่าไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่มตาลิบันยังไม่ได้ตัดขาดความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ และการโจมตีประชาชนก็ยังมิได้ลดน้อยลง
ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า การถอนทหารต่างชาติทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานทันทีโดยไม่มีข้อตกลงสันติภาพระหว่างกลุ่มตาลิบันกับรัฐบาลอัฟกานิสถาน อาจทำให้เกิดความวุ่นวายและการนองเลือดในประเทศตามมา