ไอ้ป๊ะ เมายาแทงคอผู้ใหญ่บ้าน ร่ำไห้ขอโทษแม่ หากพ้นโทษจะขอบวชทดแทนบุญคุณ

ไอ้ป๊ะ เมายาแทงคอผู้ใหญ่บ้าน ร่ำไห้ขอโทษแม่ หากพ้นโทษจะขอบวชทดแทนบุญคุณ

ไอ้ป๊ะ เมายาแทงคอผู้ใหญ่บ้าน ร่ำไห้ขอโทษแม่ หากพ้นโทษจะขอบวชทดแทนบุญคุณ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี "ไอ้ป๊ะ" นายทศพล พันธ์โภคา อายุ 27 ปี  หนุ่มหลอนยา ขู่เผาโรงเรียนบ้านดงศรีสำราญ ต.บ้านเหล่า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี  ก่อนก่อเหตุแทงคอนายภูษิต โยชน์สุวรรณ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้ามาระงับเหตุ อาการสาหัส ก่อนลักจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ของชาวบ้านหลบหนีไป เหตุเกิดเย็นวันที่ 19 มีนาคม กระทั่งเย็นวันที่ 22 มีนาคม ตำรวจ สภ.เพ็ญ ประสานตำรวจ สภ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จับตัวได้พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลาง ขณะขี่รถจะไปหาเพื่อนที่ จ.ลำพูน ควบคุมตัวกลับ จ.อุดรธานี  ถึงเช้าวันที่ 23 มีนาคม แต่ต้องยกเลิกทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะชาวบ้านมามุงดูจำนวนมาก เกรงจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มีนาคม 2564 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เดินทางมาสอบปากคำนายทศพล พันธุ์โภคา หรือป๊ะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ข้อหา "พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน"  ซึ่งนายป๊ะ ให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้เหล็กแหลมคล้ายไขควง แทงนายภูษิต โยชน์สุวรรณ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านดงศรีสำราญจริง เพราะถูกผู้ใหญ่บ้านทำร้ายก่อน ด้วยการใช้ท่อนไม้ทุบหัว จึงแทงสวนเพื่อป้องกันตัว และขโมยรถชาวบ้านหลบหนี แต่ไม่เคยทะเลาะกับครูในโรงเรียน และไม่เคยทำร้ายครู แต่ได้นำเอาเอกสารทางโรงเรียน เบิกค่าอาหารกลางวันไปภารโรงเซ็นชื่อเท่านั้น  และไม่เคยไปแอบชอบครูในโรงเรียน เพราะตนไม่ชอบผู้หญิงมานานกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งนายทศพลให้การว่าก่อนเข้าไปในโรงเรียนได้เสพยาบ้า 1 เม็ด และมีสติรู้รับผิดชอบดี ยินยอมไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากนั้น พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ นามแสง รงอ ผกก.ป.สภ.เพ็ญ พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ วงษ์สนิทธีรา รอง ผกก.สส. เพ็ญ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ สว.สส.สภ.เพ็ญ ควบคุมตัวนายทศพล หรือป๊ะ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่โรงเรียนบ้านดงศรีสำราญ ซึ่งมีกำลังตำรวจและผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานกว่า 30 นาย กระจายตัวอยู่รอบรั้วโรงเรียน เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาดูการทำแผนจำนวนมาก รวมทั้งนางราตรี พงษ์สินชัย อายุ 47 ปี แม่นายป๊ะซึ่งร้องไห้ตลอดเวลามายืนดูการทำแผนด้วย

โดยเริ่มจากนายป๊ะ อ้างว่าเวลา 16.45 น. วันที่ 19 มีนาคม ได้เดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมเอกสาร มาถามหาภารโรง แต่ไม่มีใครอยู่ ไม่ได้ตะโกนด่าครู ไม่ได้อาละวาด แต่ผู้ใหญ่บ้านมาตีหัวตนจนแตกเลือดไหล ตนจึงใช้เหล็กขูดชาร์ป ที่พกติดตัวตลอด ไล่แทงผู้ใหญ่บ้านจนล้มลง และแทงลำคอ 2 ครั้ง กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยนำส่งโรงพยาบาล ส่วนตนเดินไปหลังโรงเรียน ไปขี่รถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่จอดไว้กระท่อมหลบหนีไป โดยไปหาลุงและป้าที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ขอเงิน 500 บาท ขี่รถต่อไปหาญาติที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา แต่ไม่พบ จึงขี่รถจักรยานยนต์กลับมาหาเพื่อนที่ ต.กุดสระ อ.เมือง จ.อุดรธานี ขอเงิน 90 บาท แล้วเดินทางต่อเพื่อไปบวชที่ จ.ลำพูน แต่มาถูกตำรวจจับที่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก 

เสร็จแล้วนายป๊ะได้กราบเท้าขอโทษแม่ เพราะสำนึกผิด พร้อมกับร่ำไห้บอกว่า "ผมขอโทษ ตั้งใจจะบวชให้แม่ แต่ไปไม่ถึงวัดสักที  ถ้าพ้นโทษออกมาจะไปบวชทดแทนคุณ" ส่วนนางราตรีถึงกับร่ำไห้กอดลูกด้วยความเสียใจและสงสาร นอกจากนี้ นายทศพล หรือป๊ะ ยังได้ได้กล่าวขอโทษครูว่า "ขอโทษครูในโรงเรียนด้วย ที่เข้ามารบกวน ทำสิ่งไม่ดี สร้างความเดือดร้อนให้ครู ซึ่งตนก็เป็นศิษย์เก่าที่โรงเรียนนี้" จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายป๊ะ ขึ้นรถตู้กลับโรงพักทันที โดยไม่มีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น

นายเอกราช วรรณคีรี ผอ.โรงเรียนบ้านดงศรีสำราญ ได้มอบดอกไม้ขอบคุณตำรวจ ที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ครู นักเรียน ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงรู้สึกสบายใจ หลังจากที่ต้องอยู่อย่างหวาดระแวงมานาน โดย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้น ผู้ต้องหาทำไปเพราะสภาพทางจิตหรือยาเสพติดไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวผู้ต้องหาตรวจจิตเวช และตรวจหาสารเสพติดอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยทั้ง 2 กรณีต้องเป็นความเห็นทางการแพทย์ แต่เบื้องต้นจากการสอบถามพูดคุยกับผู้ต้องหาในการทำแผนวันนี้ พบว่าผู้ต้องหามีสติสัมปชัญญะดี และจากประวัติของผู้ต้องหา ทราบว่าเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา มีการนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะช่วงนั้นมีอาการคุ้มคลั่ง มีการฉีดยาเพื่อให้อาการสงบ

ส่วนนางราตรี แม่ของนายป๊ะ เล่าว่า นายป๊ะตั้งใจมานานแล้วว่าจะบวช แต่แม่ต้องไปทำงาน ไม่มีเวลาอยู่ด้วย จึงไม่ได้บวช ส่วนเรื่องหลอน คุ้มคลั่งอาละวาดอย่างหนักเมื่อ 2 เดือนนี้  ยอมรับว่าลูกเคยมีประวัติเสพยาบ้ามาก่อน ส่วนสาเหตุการก่อเหตุในครั้งนี้ เชื่อว่าน่าจะมาจาก 2 สาเหตุ คือเสพยาบ้า และไปเล่นไสยศาสตร์ สักยันต์บนศีรษะ ซึ่งจะต้องมีข้อห้าม แต่ปฎิบัติตามไม่ได้ ทำให้ของเข้าตัวเกิดอาการหลอน จนเสียสติ อีกอย่างไปย้ายศาลเจ้าที่ใต้ต้นยางใหญ่โดยพลการ ไม่ได้ทำพิธีอย่างถูกต้อง ทำให้เจ้าที่เจ้าทางไม่พอใจ พอถึงวันพระวันศีล มักจะอาละวาด และพูดแต่เรื่องผีตลอด หลังเกิดเหตุตนได้ทำขันธ์ห้าไปขอโทษขอขมาเจ้าที่ และไปย้ายศาลเจ้าที่ไปไว้ที่เดิมแล้ว

ด้านนายจีรพงษ์ โยชน์สุวรรณ อายุ 35 ปี ลูกชายผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเดินทางมาดูการทำแผนด้วย เปิดเผยว่า ตอนนี้ตนก็ไม่รู้จะพูดอะไร ตนก็อยากจะให้เป็นไปตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการดำเนินการตามกฎหมายไป ตนก็อยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวนายทศพลได้ ซึ่งตอนนี้อาการของพ่อก็ดีขึ้นมาก และตนก็ไม่คิดว่าอาการของพ่อจะดีขึ้นเร็วขนาดนี้ตอนนี้พ่อก็ได้กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านแล้ว ตนนั้นสบายใจขึ้นมาก แต่ก็ยังมีแอบไม่สบายใจนิดหน่อย เพราะว่าเมื่อวานตำรวจนำตัวมาดูจุดเกิดเหตุ ตนได้ยินว่าถ้าออกมาได้จะกลับคืนมาฆ่า ทำให้ตนยังไม่สบายใจมากนัก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook