สธ.เร่งสอบสวนกรณีคนไข้เส้นเลือดโป่งพองในท้อง เสียชีวิตรายแรกหลังรับวัคซีนโควิด

สธ.เร่งสอบสวนกรณีคนไข้เส้นเลือดโป่งพองในท้อง เสียชีวิตรายแรกหลังรับวัคซีนโควิด

สธ.เร่งสอบสวนกรณีคนไข้เส้นเลือดโป่งพองในท้อง เสียชีวิตรายแรกหลังรับวัคซีนโควิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กระทรวงสาธารณสุขเตรียมสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงกรณีคนไข้เส้นเลือดโป่งพองในท้อง จนเสียชีวิตเป็นรายแรกหลังรับการฉีดวัคซีนโควิด

นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยเส้นเลือดในท้องโป่งพองแตก และเสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด แต่คาดว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับวัคซีน เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้ป่วยโรคเส้นเลือดโป่งพองในท้อง อยู่ระหว่างรับการรักษาอยู่แล้ว โดยโรคนี้มีโอกาสที่เส้นเลือดจะแตกได้ตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด ดังนั้นตามหลักแล้ว เมื่อมีอะไรที่เกิดขึ้นระหว่างการรับวัคซีนก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อสอบสวนต่อไป

สำหรับรายละเอียดของผู้เสียชีวิตว่าเป็นหญิงหรือชาย อายุเท่าไหร่ และวัคซีนอะไร นพ.โสภณ กล่าวว่า ขอให้สอบถามไปยังกรมควบคุมโรค เบื้องต้นคาดว่าอายุน่าจะไม่ถึง 60 ปี

ส่วนกรณี นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีไข้หลังรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จนต้องเข้าโรงพยาบาล 4 วันนั้น นพ.โสภณ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องนี้เลย แต่ที่ผ่านมา ตามระบบการรายงานติดตามอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีน ยังไม่พบว่ามีเคสที่มีอาการข้างเคียงรุนแรงแต่อย่างใด

โดยอาการข้างเคียงส่วนใหญ่ที่พบเป็นอาการไม่มาก เช่น ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีด และอาการมีไข้หลังการรับวัคซีนก็เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 วัน หรือ 2 วันก็หายแล้ว ส่วนผลข้างเคียงรุนแรงที่พบ มี 2 ราย คือ แพ้วัคซีนในลักษณะลมพิษขึ้น ส่วนอีก 1 รายที่กำลังนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาอาการข้างเคียงหลังรับวัคซีนคือ กรณีที่เสียชีวิตรายแรก

ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 จนถึงปัจจุบัน เพิ่งจะมีรายงานว่ามีการเสียชีวิตเกิดขึ้น แต่ก็ต้องเข้าสู่คณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งว่าเกิดจากการรับวัคซีนหรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook