แม่ฮ่องสอนเตรียมรับมือ ผู้ลี้ภัยสงครามเมียนมา หลบหนีเข้าไทยมาเกือบ 2,000 คน
แม่ฮ่องสอนเตรียมรับมือ ผู้ลี้ภัยสงครามเมียนมา หลบหนีเข้ามาเกือบ 2,000 คน เบื้องต้นส่งทหารพรานไปดูแล
(28 มี.ค.64) เวลาประมาณ 14.00 น. หน่วยข่าวความมั่นคงของไทย ได้รายงานว่า มีราษฎรพม่าเชื้อสายกะหรี่ยงในเขตรับผิดชอบ ของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ/KNU ได้อพยพหลบหนีภัยสงคราม จากรัฐกะเหรี่ยง จำนวน 1,900 คน เข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ ฐานออเลาะ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จำนวน 300 คน , มาจากห้วยอูแวโกร พื้นที่พักพิงของพม่า เข้ามาอาศัยในไทย ที่บ้านแม่ดึ หมู่ 5 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 300 คน , มาจากห้วยอีทูโกร เขตพม่า เข้ามาอาศัยในไทยที่ฐานแม่สะเกิบ บ้านห้วยกองแป หมู่ 3 ต.แม่คง จำนวน 1,300 คน รวมได้มีผู้อพยพเข้ามาอาศัยในไทย ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง ปัจจุบัน จำนวน 2,194 คน
ต่อมาในวันเดียวกัน (28 มี.ค.64) เวลาประมาณ 16.15 น.กองทัพอากาศของเมียนมา ได้ส่งเครื่องบิน แบบ JF 17 ที่ผลิตในประเทศจีน จำนวน 4 ลำ จากฐานบินเมืองตองอู เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ KNU ฐานชิกอท่า ที่ตั้งกองบัญชาการหน่วยรบพิเศษ กองพลน้อยที่ 5 ตรงข้ามอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้ทหารกะเหรี่ยง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย
นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยถึงสถานการณ์เกี่ยวกับผู้อพยพ ว่า สถานการณ์ในประเทศเมียนมา ได้เริ่มรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีผู้อพยพ หลบหนีเข้ามาอาศัยในไทย ล่าสุด จำนวน 2,194 คน และคาดว่าน่าจะมีการหลบหนีเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามในตอนนี้ ทางจังหวัดจะต้องรอคำสั่งจากรัฐบาลในเรื่องการเข้าไปดูแลผู้ลี้ภัยกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้มีการวางแผนเตรียมพื้นที่รองรับไว้แล้ว ที่อำเภอขุนยวม แต่เป็นพื้นที่คนละจุดกัน ซึ่งตอนนี้ผู้อพยพดังกล่าว ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพราน จากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง จัดกำลังเข้าไปควบคุมดูแลในเบื้องต้นแล้ว
แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง ระบุว่า ตอนนี้ทางฝ่ายปกครองยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับผู้อพยพที่ชัดเจน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว เป็นเขตรับผิดชอบของทหารและมีการห้ามหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปดูแลผู้อพยพเหล่านั้น