สุดพีค ครูถูกขี่จยย.ประกบฉกกระเป๋าสตางค์ จำได้เป็นลูกศิษย์ สำนึกผิดกราบเท้าขอโทษ

สุดพีค ครูถูกขี่จยย.ประกบฉกกระเป๋าสตางค์ จำได้เป็นลูกศิษย์ สำนึกผิดกราบเท้าขอโทษ

สุดพีค ครูถูกขี่จยย.ประกบฉกกระเป๋าสตางค์ จำได้เป็นลูกศิษย์ สำนึกผิดกราบเท้าขอโทษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลูกศิษย์สำนึกผิดก้มกราบเท้าคุณครู หลังก่อเหตุขี่รถจยย.ประกบฉกกระเป๋าสตางค์ในตะกร้าหน้ารถ อ้างต้องการเงินไปเป็นค่ารักษาลูกที่ป่วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมตัว นายพรชัย อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ พร้อมของกลางรถจยย. เสื้อผ้าชุดใช้ก่อเหตุ และกระเป๋าสตางค์, บัตรประชาชน, บัตรข้าราชการ และบัตรเอทีเอ็มของผู้เสียหาย โดยนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 17.30 น. ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านผือ ได้รับแจ้งจาก นางกองแก้ว สีแก้ว อายุ 59 ปี ครูโรงเรียนบ้านเม็ก ในขณะที่ตนไปซื้อกับข้าวที่ร้านค้าภายในหมู่บ้าน และคนร้ายก็มาซื้อของในร้านเดียวกัน หลังจากที่ตนซื้อกับข้าวเสร็จ ก็ขี่รถจยย.เพื่อจะกลับบ้าน

เมื่อมาถึงทางแยก ได้มีคนร้ายขี่รถจยย.ฮอนด้าเวฟสีแดง ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตามมาประกบที่ข้างรถจยย.ของตน แล้วเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าสตางค์ที่เอาไว้หน้าตะกร้ารถจยย. ซึ่งข้างใน มีเงินสด 5,660 บาท, บัตรประชาชน, บัตรข้าราชการ และบัตรเอทีเอ็ม แล้วคนร้ายขี่รถหลบหนีไป 

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ข้อมูลตำหนิรูปพรรของคนร้าย ซึ่งนางกองแก้วจำได้ เพราะคนร้ายเคยเป็นลูกศิษย์เก่าที่เคยสอน เจ้าหน้าที่จึงออกติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ที่บ้านพักคือ นายพรชัย จึงได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านผือ

จากการสอบสวน นายพรชัย ให้การอ้างว่า สาเหตุตนที่ทำไปเพียงต้องการเงินไปเป็นค่ารักษาลูกวัย 8 ขวบ ที่ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหนองบัวลำภู

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายพรชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดแรกบริเวณร้านค้าภายในหมู่บ้านเม็ก ต.ข้าวสาร เป็นจุดที่นางกองแก้ว ผู้เสียหาย ที่เข้ามาซื้อของ และนายพรชัย เห็นผู้เสียหายเป็นครูที่เคยสอนตนตั้งแต่ประถมศึกษา จึงสำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองทำลงไปและได้ก้มลงกราบเท้าเพื่อขอขมา

ซึ่งนางกองแก้วได้สอบถามถึงสาเหตุที่ทำลงไป โดยนายพรชัยบอกว่า ตนมีความจำเป็นต้องใช้เงินเป็นค่ารักษาลูกวัย 8 เดือน ที่ป่วยรักษาตัวที่ รพ.หนองบัวลำภู หลังจากที่ก่อเหตุก็ได้โอนเงินไปให้ภรรยาไปเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกที่โรงพยาบาล

ซึ่งนางกองแก้ว ก็ได้สั่งสอน นายพรชัย ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ส่วนเงินที่เอาไปนั้นยกให้ไม่ต้องเอามาคืน แต่ต้องยอมรับโทษตามกฏหมายที่ตัวเองกระทำลงไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายพรชัยไปชี้จุดที่ 2 บริเวณทางแยก ห่างจากร้านค้าประมาณ 100 เมตร ซึ่งนายพรชัยขี่ได้รถจยย.มาประกบผู้เสียหายก่อน ที่จะหยิบกระเป๋าที่อยู่ตะกร้าหน้ารถแล้วหลบหนีไป

แล้วไปจุดที่ 3 ห่างออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นกระท่อมนาของญาติ คือจุดที่นายพรชัยนำกระเป๋าสตางค์มาฝังไว้ข้างก่อไผ่ แล้วนำชุดที่ใส่ก่อเหตุไปซ่อน แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ที่อยู่ในกระท่อมนา แล้วขี่รถจยย.ไปโอนให้ภรรยา

จากการสอบถาม นายพรชัย ระบุว่า ตนทำงานอาชีพรับจ้างอยู่กรุงเทพฯ ส่วนภรรยาอยู่ จ.หนองบัวลำภู ตนลาออกจากงานกลับมาอยู่บ้านได้ 15 วัน ตนก็คิดว่าจะมาหางานทำใกล้บ้านจะได้มีเวลาไปดูแลลูก โดยตนที่ตัดสินใจก่อเหตุเพราะความจำเป็น ต้องการหาเงินค่าใช้จ่ายไปรักษาลูกที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล

ด้าน นางกองแก้ว บอกว่า ตนเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนบ้านเม็กมานานหลายปี ในช่วงวันเกิดเหตุตนได้ไปซื้อกับข้าวที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ก็เห็นนายพรชัยอยู่ภายในร้าน ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะจำได้ว่าเป็นลูกศิษย์ เคยสอนเขาตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 3 และประถมศึกษาปีที่ 6

เมื่อตนซื้อของเสร็จก็ขี่รถจยย.กลับบ้าน พอมาถึงทางแยกเป็นทางเปลี่ยว นายพรชัยขี่รถจยย.ตามมาประกบด้านข้าง ก่อนที่จะเอื้อมมือมาหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในตะกร้าหน้ารถไป ด้วยตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ซึ่งก็ไม่คิดว่าลูกศิษย์จะมาทำแบบนี้

ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้คนร้ายก่อเหตุเป็นลูกศิษย์เก่าที่ตนเคยสอนมาทำแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ คิดว่าเราสอนเขามาดีให้เป็นคนดี แล้วมาทำแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจมาก แล้วไม่คิดว่าเขาจะมาทำครูที่เคยสอนเขา

ตนก็อยากฝากเตือนว่าขนาดรู้จักกัน อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ยังไว้ใจกันไม่ได้ ฉะนั้นต้องระมัดระวังอย่าไว้ใจใครง่ายๆ ถึงแม้จะเห็นหน้ากันทุกวันก็ไม่ควรจะไว้ใจใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook