วิเชียรบุรีวุ่น! หนุ่มเพชรบูรณ์เพิ่งมาถึงกรุงเทพฯ ไปตรวจสุขภาพสมัครงาน กลับเจอโควิด-19

วันที่ 1 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีชายหนุ่มวัย 24 ปี ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ในการสมัครงาน ปรากฏว่า ตรวจพบเชื้อโควิด 19

ขณะนี้ได้เข้าทำการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ และจากการตรวจสอบพบว่า ชายหนุ่มคนดังกล่าว มีอายุ 24 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ตำบลบ่อรัง อำเภอวิเชียรบุรี เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2564 และอยู่ในพื้นที่อำเภอวิเชียรบุรี มาโดยตลอด

ระหว่างอยู่ในพื้นที่มีกลุ่มบุคคลใกล้ชิด ได้แก่ยายซึ่งอยู่อาศัยในบ้านเดียวกัน แฟนสาวที่ทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และเพื่อนๆ ที่สังสรรค์และดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน กระทั่งวันที่ 25 มี.ค. 2564 ได้นั่งรถตู้จากอำเภอวิเชียรบุรีไปกรุงเทพฯ เที่ยวเวลาประมาณ 13.00 น.ไปลงที่ท่ารถจตุจักร แล้วนั่งรถแท็กซี่ไปที่พัก ซอยเพชรเกษม 62 วันที่ 26 มี.ค. 2564 ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค กรุงเทพฯ เพื่อขอใบรับรองแพทย์ไปสมัครงาน วันที่ 27–28 มี.ค. อยู่ห้องพัก วันที่ 29 มี.ค. พบว่าผลตรวจเป็นบวก จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค กรุงเทพฯ 

นายแพทย์ กอบชัย จิรชาญชัย นายแพทย์เชี่ยวชาญ รักษาการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิเชียรบุรี กล่าวว่า เบื้องต้นได้ดำเนินการตามมาตรฐานของการสอบสวนโรค สืบหาบุคคลที่มีความเสี่ยงสูงใกล้ชิด ตอนนี้ที่สามารถตรวจสอบได้มีทั้งหมด 5 คน ที่อยู่ใกล้ชิดกัน ซึ่งก็ได้นำผลตรวจมาตรวจแล้ว ผลตรวจ Swab ในคอ และในโพรงจมูกก็เป็นผลลบทั้งหมด และทุกคนได้รับการกักตัวอยู่ในบริเวณบ้านรวมทั้งหมด 14 วัน นับจากวันที่สัมผัสคนไข้เป็นวันสุดท้าย

จากประวัติก็คือ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. เป็นต้นไป และได้ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนคนอื่นๆ ก็จะตามมาตรวจเพิ่มเติมต่อไป แต่ทั้งนี้ก็เป็นเรื่องที่แปลกที่ว่า คนในบ้านใกล้ชิดก็ไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด และผู้ชายคนนี้ไม่ได้ออกจากพื้นที่ไปเป็นเวลาเท่าที่สืบทราบ อย่างน้อยที่สุด 2 เดือน ซึ่งในช่วง 2 เดือน ก็ไม่มีการระบาดจากเชื้อโควิดในเขตอำเภอวิเชียรบุรีแต่อย่างใด 

อย่างไรก็ตาม อยากจะให้มีการตรวจหาเชื้อจากชายคนดังกล่าว อีกครั้ง ผู้ที่สุ่มเสี่ยงและมีประวัติใกล้ชิดกับชายคนดังกล่าว สามารถมาแจ้งและขอตรวจหาเชื้อได้ที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรีหรือโรงพยาบาลของรัฐได้ทุกแห่ง