มืดแปดด้านมูลเหตุฆ่ายกครัว 3 ศพ ผัวเมียหน้าตาดี นิสัยดี อยู่เงียบๆ ไม่ขัดแย้งใคร

 

ยังไม่รู้มูลเหตุฆ่ายกครัว พ่อแม่ลูกชาวลาว 3 ศพ ญาติเผยผัวเมียหน้าตาดี นิสัยดี อยู่เงียบๆ ชีวิตมีแค่ทำงาน-รับส่งลูกไปโรงเรียน ไม่ขัดแย้งใคร 

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจรับแต้ง พบศพแรงงานชาวลาวถูกฆ่ายกครัว 3 ศพ ภายในฟาร์มเลี้ยงหมู พื้นที่ ม.12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อช่วง 03.00 น. วันที่ 2 เมษายน 64 ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิต คือ นายขันทะเล อายุ 26 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด  บริเวณใบหน้า และ ศีรษะ 8 แผล เป็นแผลฉกรรจ์ ข้อมือด้านซ้ายขาด รายที่สองศพ น.ส. ทองบาง อายุ 24 ปี มีบาดแผลถูกของมีคมไม่ทราบชนิด บริเวณศีรษะและใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ ข้อมือขวาขาด และศพที่ 3 เป็นเด็กชายอายุ 4 ปี 5 เดือน ซึ่งเป็นลูกชายของนายขันทะเล และ น.ส.ทองบาง มีบาดแผลถูกของมีคม บริเวณศีรษะและท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ 

ล่าสุดชุดสืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ฯ และชุดสืบสวนตำรวจภูธร สภ.กาญจนดิษฐ พร้อมศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ระดมกำลังลงพื้นที่สืบสวนและหาวันถุพยานเพิ่มเติมในจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักในบริเวณฟาร์มหมูดังกล่าว อยู่ตรงโซนด้านหลังของฟาร์ม ส่วนด้านข้างเป็นสระน้ำของฟาร์ม ติดกับสวนปาล์ม มีทางเดินออกมายังสวนปาล์มได้ พร้อมนำกำลังสืบสวนและสอบสวนชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง เพื่อหามูลเหตุจูงใจและเบาะแสต่างๆ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มแรงงานด้วยกัน 

จากการสอบถาม นายคำพัน อายุ 36 ปี ญาติชาวลาว ที่เดินทางจากประเทศลาวมาทำงานที่สุราษฎร์ธานีด้วยกัน ทราบว่า เป็นเครือญาติกันเดินทางมาจากจำปาสัก 10 กว่าคน แยกย้ายทำงานในจุดต่างๆ สวนของตนทำงานในสวนปาล์มน้ำมันไม่ไกลกันมาก ที่ผ่านมาผู้ตายก็ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร ทำงานรับลูกโรงเรียน ใช้ชีวิตตามปกติ ตอนนี้เสียใจมากที่ญาติมาถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม 

ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่รู้ปมในการสังหาร ได้เชิญญาติมาเรียกสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเจ้าของฟาร์มหมู และครอบครัวของเจ้าของฟาร์มหมู เพื่อหามูลเหตุจูงใจของคนร้าย 

ส่วนผลการชันสูตรศพเบื้องต้นคาดว่าถูกฆาตกรรมในข่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะรับแจ้งพบศพในช่วง 03.00 น.ของวันที่ 2 เมษายน ส่วนอาวุธสังหารและวัตถุพยานอื่นๆ ยังหาไม่พบ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เก็บวัตถุที่น่าสงสัยต่างๆ ในฟาร์มหมูอย่างครอบคลุมไปตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อคลี่คดี

นางจันยา แย้มแก้ว บอกว่า ครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นคนอัธยาศัยดี หน้าตาดีทั้งสองคน เด็กก็น่ารัก ส่วนใหญ่ก็แค่แวะซื้อของหลังจากรับส่งลูกโรงเรียน และก็กลับเข้าฟาร์ม ไม่น่าจะถูกฆาตกรรมเช่นนี้ รู้สึกเสียดายคนดีๆ