ตำรวจเข้มช่วงสงกรานต์ ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ 1,000 แห่ง ลั่นห้ามสาดน้ำ

ตำรวจเข้มช่วงสงกรานต์ ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ 1,000 แห่ง ลั่นห้ามสาดน้ำ

ตำรวจเข้มช่วงสงกรานต์ ตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ 1,000 แห่ง ลั่นห้ามสาดน้ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ประชุมมาตรการดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย ใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้ประชุมร่วมกับ ผู้กำกับการ(ผกก.) ทั่วประเทศกว่า 1,400 แห่ง รวมหน่วยสนับสนุนต่างๆ อาทิ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตชด. ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ได้เน้นย้ำเรื่องการกำกับดูแลควบคุมสั่งการของผู้บังคับบัญชาระดับสถานี การเตรียมการในช่วงนี้ คือ อำนวยความสะดวกจราจร และดูแลความปลอดภัย ทั้งคนที่เดินทางออกต่างจังหวัด และคนที่ฝากบ้านไว้กับตำรวจ

ที่ผ่านมาได้ออกแผนรองรับสถานการณ์โควิด-19 ที่มาแทรกซ้อน รวมไปถึงบางพื้นที่มีปัญหาลักลอบข้ามแนวชายแดน มีแรงงานต่างด้าวไปอยู่เป็นกลุ่ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสถานบริการ เป็นแหล่งที่คนไปรวมตัวอยู่จำนวนมาก บางพื้นที่มีปัญหาเรื่องการจราจร อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งวันนี้เป็นการกำชับให้ทำตามแผน ผกก.แต่ละโรงพัก ต้องไปควบคุมกำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของลูกน้อง การเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ ออกแผนคำสั่ง จัดคนลงไปปฏิบัติหน้าที่ การกำหนดตัวชี้วัด

ห้ามรวมตัวกันสาดน้ำ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้ทางรัฐบาลตั้งเป้าว่าอุบัติเหตุต่างๆ ต้องลดกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลัง 5 % ในขณะเดียวกันเรื่องดูแลความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ยืดอายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบคุมโควิด-19 ไปถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2564 และมีมาตรการภาพรวมออกมา ตำรวจก็ต้องไปดูมาตรการต่างๆ เช่น เรื่องไม่ให้รวมตัวกันสาดน้ำ ปาร์ตี้โฟม จึงฝากพี่น้องประชาชนว่า เพื่อความปลอดภัยในเรื่องป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รัฐบาลก็ขอร้องว่าไม่ให้มี ต้องไม่มีเรื่องการรวมตัวกันสาดน้ำ แต่เรื่องประเพณีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ อนุญาตให้มีได้ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งตำรวจต้องไปร่วมกับหน่วยงานฝ่ายปกครอง อาสาสมัครต่างๆ ไปกวดขันประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ ตักเตือน ไม่ให้มีเหตุพวกนี้ แต่หากยังฝ่าฝืน ก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย

กำชับผู้บัญชาคุมการตั้งด่านรีดเงิน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ ยังกล่าวถึงการตั้งจุดตรวจจุดสกัด ว่า เป็นมาตรการที่พยายามออกแบบขึ้นมาเพื่อแก้ไขจุดบกพร่องที่ผ่านมาในอดีต ตอนนี้ยังอยู่ช่วงทดลองปรับแก้ แต่ไม่ว่ามาตรการจะดีแค่ไหน หากคนพยายามหาช่องทุจริต ก็ยากที่จะป้องกันได้ เพราะฉะนั้นถึงเน้นว่า ผกก. สถานีต้องรู้นิสัยลูกน้องตนเอง ว่าใครเป็นแบบไหน แล้วหาวิธีแก้ไข ที่ผ่านมาตำรวจไม่แม่นยำเรื่องข้อกฎหมาย ก็พยายามจะจัดสอบมาตรฐานตำรวจ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ หลายอย่างที่กำลังทำคิดว่าต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้ก็หวังว่าจะควบคุมอาชญากรรม และเรื่องความปลอดภัยด้านการจราจรได้ดีขึ้นกว่าเดิม รวมถึงมาตรการควบคุมโควิด-19 ด้วย

กวดขันตามเส้นทาง

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า คาดการตัวเลขคนเดินทางออกต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะใกล้เคียงกับปี 2562 ขาออกช่วง 9-11 เมษายน คาดว่าประมาณ 3.5 ล้านคน ขากลับ 15-18 ประมาณ 3.7 ล้านคน ทั้งนี้คนเดินทางออกต่างจังหวัดจะมากกว่าช่วงปีใหม่ เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว สำหรับการตั้งจุดตรวจช่วงสงกรานต์ จะเป็นไปตามนโยบาย ตร. คือ มีมาตรฐาน โปร่งใส ตรวจสอบได้ ทั้งนี้จะมีการเสนอตั้งด่านตามมาตรฐาน เฉพาะด่านเมา 1,200 จุด และจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร 1,700 แห่ง โดย ผบ.ตร. ขยายประเด็นนี้ ว่า เวลาจะตั้งด่านต้องมาลงบันทึกในระบบก่อนทุกครั้ง เวลาลงไปแล้วจะเห็นแต่ละจุดอยู่ตรงไหนบ้าง ทำให้เห็นภาพ ยืนยันว่าจะไม่มีภาพตั้งด่านซ้ำซ้อน หรือเจอด่านทุกๆ 3 กิโลเมตร

จัดการแข่งขันพื้นที่ไร้เหตุ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทาง ผบ.ตร. ให้ความสำคัญสนองนโยบายรัฐบาลเรื่องลดอุบัติเหตุ จึงมีโครงการจะให้รางวัลตำรวจแข่งขันกัน ที่ 1-3 ในระดับกองบัญชาการ(บช.) โดยประเมินจากตัวเลขการลดอุบัติเหตุ และรางวัลที่ 1-3 จากจังหวัดที่ไม่มีการตายเกิดขึ้น มอบรางวัลช่วงปลายเดือน เมษายน ในการประชุมบริหารประจำเดือน

ด้าน พล.ต.อ.มนู กล่าวว่า โครงการฝากบ้านช่วงสงกรานต์ปีนี้ รับฝาก 10 วัน ตั้งแต่ 9-18 เมษายน ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย เพื่ออำนวยความสะดวกไม่ต้องเดินทางมาที่สถานีตำรวจ และคาดว่าจำนวนน่าจะเยอะกว่าช่วงปีใหม่ จากประมาณ 8,000 เป็น เกือบ 10,000 หลัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook