ยุโรปสั่งสอบ วัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน หลังมีคนฉีดแล้วพบภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
คณะกรรมาธิการความปลอดภัยขององค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (EMA) แถลงว่า กำลังเร่งตรวจสอบปัญหาการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันซึ่งเป็นภาวะที่เกิดได้อยาก ในผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ในสหรัฐฯ จำนวน 4 ราย
รายงานระบุว่า กรณีที่พบภาวะลิ่มเลือดนี้ เกิดขึ้นระหว่างที่ "แจนเซน" บริษัทผลิตเวชภัณฑ์ในเครือจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ทำการทดสอบวัคซีนป้องกันโควิดในกลุ่มอาสาสมัครที่สหรัฐฯ โดยพบว่ามีผู้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นได้ยากจำนวน 4 ราย โดยทางจอห์สันระบุว่า ขณะนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยงที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเกิดลิ่มเลือดอุดตันดังกล่าว จำนวนผู้รับวัคซีนทั้ง 4 รายที่มีอาการรุนแรง พบลิ่มเลือดอุดตันและภาวะเกล็ดเลือดต่ำ โดย 3 คนพบหลังจากที่ได้รับวัคซีนจอห์นสันในสหรัฐ ส่วนอีกรายเสียชีวิตจากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติซึ่งทั้งหมดถูกระบุไว้ในรายงานของการทดลองแล้ว
กรณีดังกล่าวเป็นเหตุให้ EMA ต้องเข้าตรวจสอบข้อมูลความชัดเจนว่าเชื่อมโยงกับกรณีการเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่คล้ายกับกรณีของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าในก่อนหน้านี้หรือไม่ หลังจากที่ EMA พบความเชื่อมโยงภาวะลิ่มเลือดอุดตันและเกล็ดเลือกต่ำในผู้รับวัคซีนของแอสตร้าฯ บางราย เป็นเหตุให้หลายชาติในสหภาพยุโรปต้องออกข้อกำหนดด้านอายุของผู้ที่จะเข้ารับวัคซีนดังกล่าวของแอสตร้าฯ พร้อมติดคำเตือนที่ฉลากของวัคซีนอย่างชัดเจน
ด้านองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ระบุว่า ตระหนักถึงรายงานดังกล่าวของผู้ที่ได้รับวัคซีนของจอห์นสันแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะอาการลิ่มเลือดอุดตันอย่างรุนแรง ซึ่งบางครั้งความเชื่อมโยงกับภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หลังได้รับวัคซีนของจอห์นสันนั้น มักเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดย FDA จะดำเนินการสอบสวนร่วมด้วยเพื่อความปลอดภัย
สำหรับวัคซีนป้องกันโควิดของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน เป็นวัคซีนป้องกันโควิดที่น่าจับตามองอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีความโดดเด่นที่ฉีดเพียงเข็มเดียวสำหรับผู้เข้ารับวัคซีนดังกล่าว มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ราว 66% ต่างจากวัคซีนป้องกันโควิดของผู้ผลิตรายอื่นที่ต้องฉีดสองเข็ม
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) ระบุว่า วัคซีนของจอห์นสันยังคงถือว่าปลอดภัยสำหรับการใช้งาน เนื่องจากการเกิดภาวะดังกล่าวพบได้น้อย อีกทั้งเมื่อชั่งน้ำหนักของภาวะดังกล่าวกับความจำเป็นในการฉีดวัคซีนแล้ว การแจกจ่ายวัคซีนสำคัญมากกว่า
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เริ่มฉีดวัคซีนจอห์นสันแอนด์จอห์นสันให้กับประชาชนแล้วเกือบ 5 ล้านคน