ป่วน! ผู้ป่วยรู้ผลตรวจติดโควิดจาก กทม. แล้วยังนั่งเครื่องบินกลับนครศรีฯ ทำคนเสี่ยงยกลำ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 13 มีนาคม 2564 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สรุปจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ล่าสุด เที่ยงคืนที่ผ่านมา มียอดสะสมจากผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 14 รายแล้ว
โดยวันที่ 12 เมษายน พบผู้ป่วยยืนยันถึง 8 ราย ทำให้สถานการณ์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีแนวโน้มพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ที่สร้างความวุ่นวายให้กับเจ้าหน้าที่ คือการพบผู้ป่วยคู่รักหญิงชาย 2 ราย มีพฤติกรรมปกปิดข้อมูล
ฝ่ายชายมีอายุ 26 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเดินทางมาจาก กทม.มาถึงนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากนั้นโดยสารแท็กซี่จากท่าอากาศยานกลับบ้านย่านชานเมือง ก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์ไปเข้าตรวจเชื้อที่ รพ.มหาราช พบเชื้อและได้เข้าแอดมิท
ส่วนฝ่ายหญิงอายุ 26 ปี ภูมิลำเนา ใน อ.พระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นคู่รัก ได้แยกเดินทางมาในเที่ยวบินช่วงค่ำวันที่ 11 เมษายน(วันเดียวกัน) โดยหญิงรายนี้รู้ผลตรวจว่าตัวเองติดเชื้อตั้งแต่ 10 เมษายน แต่ยังคงเดินทางกลับนครศรีธรรมราชและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มารับตัวที่ท่าอากาศยานเพื่อเข้าทำการรักษาตัวที่ รพ.มหาราช
และจากผลสืบเนื่องจากการเดินทางของบุคคลทั้งสองราย ทำให้สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช ออกประกาศแจ้งเตือน ผู้โดยสาร สายการบินไทยไลออนแอร์ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2564 เที่ยวบิน SL1780 หมายเลขที่นั่ง 1A-3C ออกจากดอนเมืองเวลา 06.05 น.ถึงนครศรีธรรมราช 07.20 น. และสายการบินเดียวกันนี้ ในเที่ยวบินที่ SL792 ออกจากดอนเมือง 17.10 น. มาถึงท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช 18.40 น. หมายเลขที่นั่ง 7C-11F ผู้โดยสารที่นั่งในที่นั่งดังกล่าวนี้เร่งรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใกล้บ้านอย่างเร่งด่วน
เจ้าหน้าปฏิบัติการรายหนึ่งได้เร่งรวบรวมข้อมูลไทม์ไลน์ จนพบว่าพฤติกรรมของฝ่ายชายนั้น ได้รับแจ้งจากเพื่อนว่าติดเชื้อโควิด-19 หลังจากนั้นได้รีบเดินทาง โดยเที่ยวบินข้างต้น มานครศรีธรรมราชทันที เมื่อมาถึงบ้านย่านถนนอ้อมค่ายวชิราวุธ ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปตรวจที่ รพ.มหาราช พบเชื้อและถูกรักษาตัวใน รพ.ทันที
ส่วนฝ่ายหญิงนั้นได้ไปตรวจที่ รพ.เอกชนในกทม. พบว่าตนเองติดเชื้อในวันที่ 10 เมษายน แต่ไม่ได้แสดงตัวเข้ารับการรักษา กลับตัดสินใจเก็บผลแล้วเดินทางกลับนครศรีธรรมราช ในวันรุ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเดินทางมาถึงนั้นได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขให้มารับตัวที่ท่าอากาศยาน
โดยในกรณีนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนโรคอย่างยากลำบาก เนื่องจากพบว่ามีเจตนาจงใจปกปิดข้อมูล จนเจ้าหน้าที่ต้องซักข้อมูลอย่างละเอียดพบความผิดปกติ หลังจากนั้นจึงยอมรับและยอมให้ข้อมูลที่เป็นจริง ส่วนฝ่ายหญิงนั้นทราบอยู่แล้วว่าติดเชื้อที่ถูกประกาศเป็นโรคระบาดร้ายแรง แต่ยังมีพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้อื่น โดยกรณีทั้งสองรายนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานต่อคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายแล้ว
อัลบั้มภาพ 5 ภาพ