ออสเตรเลียยัน หญิงเสียชีวิตจากลิ่มเลือดอุดตัน เป็นผลข้างเคียงจาก "แอสตร้าเซนเนก้า"
สำนักงานผลิตภัณฑ์รักษาโรคแห่งออสเตรเลีย (Australian Therapeutic Goods Administration: TGA) ได้ยืนยันว่า หญิงชาวออสเตรเลียวัย 48 ปีซึ่งเสียชีวิตจากอาการลิ่มเลือดอุดตันนั้น เป็นผลข้างเคียงมาจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า
หญิงรายดังกล่าวจากเขตเซ็นทรัล โคสต์ของรัฐนิว เซาธ์ เวลส์ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยอาการลิ่มเลือดอุดตัน หลังจากที่ 4 วันก่อนหน้านั้น เธอได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในสัปดาห์ที่ผ่านมา และเธอได้เสียชีวิตแล้วเมื่อต้นสัปดาห์นี้
TGA ยืนยันในวันศุกร์ (16 เม.ย.) ว่า “อาการแข็งตัวของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ รวมถึงจำนวนเกล็ดเลือดต่ำของสตรีรายดังกล่าวนั้นมีแนวโน้มที่จะเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีน”
กลุ่มตรวจสอบความปลอดภัยวัคซีน (Vaccine Safety Investigation Group – VSIG) ในสังกัด TGA เปิดเผยว่า การตรวจสอบการเสียชีวิตของผู้หญิงรายนี้มีความซับซ้อน อันเนื่องมาจากภาวะด้านสุขภาพที่เป็นอยู่ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน และลักษณะที่ผิดปกติบางประการ
หญิงคนล่าสุดนี้นับเป็นรายที่ 3 ของออสเตรเลียที่เกิดอาการลิ่มเลือดอุดตันซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าในออสเตรเลียจากจำนวนวัคซีนที่ฉีดไปแล้วประมาณ 885,000 โดส
นายกรัฐมนตรีสก็อต มอร์ริสันของออสเตรเลียประกาศเมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า จะจำกัดการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับชาวออสเตรเลีย โดยผู้ใหญ่ที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปีควรหลีกเลี่ยงการใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าตามคำแนะนำของ TGA
ด้านนายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ได้ออกมาเรียกร้องในช่วงเช้าวันศุกร์ให้ชาวออสเตรเลียเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยระบุว่า วัคซีนมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง