​หมอส่องกล้องผ่านิ่วในถุงน้ำดี บังเอิญจ๊ะเอ๋ "พยาธิไส้เดือน" คืบคลานในลำไส้ผู้ป่วย

แพทย์​ส่องกล้องผ่านิ่วในถุงน้ำดี กลับพบพยาธิไส้เดือนตัวใหญ่ยาวคืบคลานอยู่ในลำไส้ผู้ป่วยหญิง ​เตือนล้างผักแช่น้ำส้มสายชูให้สะอาด 

(21 เม.ย.64) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัธคพัชฬ รัตนพิทูลย์ นักวิจัย ศูนย์วิจัยโรคปรสิต สำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.)​ เปิดเผยว่าพบบังเอิญพบพยาธิไส้เดือน Ascaris lumbricoides ตัวยาวใหญ่ อยู่ในลำไส้เล็กของผู้ป่วยรายหนึ่ง ขณะที่ที่แพทย์​กำลังส่องกล้องเพื่อผ่าตัดนิ่วในท่อน้ำดี ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์​ 

โดย ดร.ณัธคพัชฬ เล่าว่า จากที่นายแพทย์ถิรายุส วีรเสถียร แพทย์​ประจำบ้าน แผนกศัลยกรรม ประจำรพ.บุรีรัมย์ ได้นัดผ่าตัดนิ่วในท่อน้ำดีให้กลับผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง ในช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อทำการส่องกล้องทำ ERCP บังเอิญพบพยาธิไส้เดือน Ascaris lumbricoides ตัวยาวใหญ่ เคลื่อนที่ไปมาอยู่ในลำไส้เล็ก จากนั้นได้บันทึกภาพส่งมาให้ ดร.ณัธคพัชฬ ซึ่งเป็นอาจารย์​สอนในเรื่องพยาธิวิทยาได้เก็บไว้เป็นข้อมูล
สำหรับการรักษาในกรณีนี้ หลังจากที่ทีมแพทย์​ได้ผ่าตัดนิ่วออกเสร็จเรียบร้อย จากนั้นให้ยาถ่ายพยาธิใช้เวลากำจัดพยาธิประมาณ 7 วัน  โดยก่อนที่ผู้ป่วยทำการรักษาผ่าตัดนิ่วและจะมาพบพยาธิ​ตัวดังกล่าว ผู้ป่วยไม่ได้มีอาการผิดปกติใดเกี่ยวกับพยาธิชนิดนี้เลย

โดยปกติหากมีการติดเชื้อเล็กน้อยก็จะไม่มีการแสดงอาการ นอกจากจะมีการติดเชื้อจำนวนมากถึงจะแสดงอาการอย่างเช่น ลำไส้อุดตัน ฉะนั้นผู้ป่วยจึงไม่รู้ว่าตนเองมีพยาธิ และสำหรับการติดเชื้อโดยส่วนใหญ่พยาธิไส้เดือนก็จะติดเชื้อในอาหารและน้ำที่ไม่สะอาด โดยเฉพาะผักสดและผลไม้ที่ล้างไม่สะอาดพอเนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของไข่พยาธิได้ รวมไปถึงกรณีเด็กๆ ที่ชอบเล่นคลุกคลีกับดินและนำเข้าปาก ก็จะทำให้ติดเชื้อได้ 

ดร.ณัธคพัชฬ ได้แนะนำวิธีการป้องกันโดยควรล้างมือให้สะอาด และรับปประทานอาหารที่สะอาด โดยเฉพาะผักและผลไม้ควรล้างโดยน้ำยาล้างผัก หรือแช่ด้วยน้ำส้มสายชู 5% ผสมกับน้ำ แช่ผักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีและล้างออกด้วยน้ำสะอาดที่ไหลแรง 3-4 รอบ ก็จะสามารถกำจัดไข่พยาธิชนิดนี้ได้