โฆษก ศบค.เผยถ้าติดเชื้อโควิดวันละ 1,500 คน จะเหลือเตียงรับอาการหนักอีกแค่ไม่กี่วัน!
โฆษก ศบค. ยอมรับหากยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในระดับ 1,500 คนต่อวัน จำนวนเตียงที่มีอยู่ในขณะนี้จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีกแค่ไม่กี่วัน กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งระดมแก้ปัญหากับทุกหน่วยงาน พร้อมปรับระบบของสายด่วนจัดหาเตียงทั้ง 3 เบอร์ ให้บริการได้รวดเร็วขึ้น
วันนี้ (23 เม.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โฆษก ศบค. เปิดเผยในระหว่างแถลงสถานการณ์ประจำวันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ EOC ของกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาบริหารจัดการเตียงรองรับผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่ขณะนี้เหลือเตียงไอซียู 69 เตียง และเตียงในห้องแยกความดันลบ 69 เตียง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง
โดยมีการพยากรณ์การใช้เตียงรองรับผู้ป่วยกรณีมีอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นประมาณ 1,500 คนต่อวัน จะทำให้ในส่วนของกรุงเทพมหานครต้องใช้เตียงถึง 10-13 เตียงต่อวัน เท่ากับจะมีเตียงเหลือเพียงพอสำหรับรองรับผู้ป่วยเพียงแค่ 6-8 วันเท่านั้น ส่วนจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ คาดว่าจะต้องใช้ 52 เตียงต่อวัน ซึ่งจะมีเตียงใช้ได้อีกประมาณ 19 วัน นอกจากนี้ จำนวนบุคลากรทางการแพทย์และอุปกรณ์ต่างๆ ก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย จึงเป็นภารกิจที่กระทรวงสาธารณสุขจะนำไปหาแนวทางแก้ไขปัญหา
ทั้งนี้ โฆษก ศบค. ยอมรับว่า การที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นทะลุ 2,000 กว่าคนต่อวัน จะกระทบกับเตียงรองรับผู้ป่วยแน่นอน จึงต้องระดมแนวทางแก้ปัญหาจากทุกหน่วยงาน เพื่อเพิ่มเตียงรองรับผู้ป่วยให้ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการมาก รวมทั้งจะต้องปรับพื้นที่ในโรงพยาบาลในส่วนอื่นๆ เป็นห้องไอซียูสำหรับรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 และอาจจะต้องมีห้องไอซียูสนามด้วย แต่ยืนยันว่าผู้ป่วยอาการหนักทุกคนต้องได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ส่วนกรณีผู้ป่วยติดเชื้อบางรายที่ยังไม่สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้ จนกระทั่งบางรายเสียชีวิตก่อนจะได้รับการรักษา โฆษก ศบค.ได้กราบขออภัยประชาชนที่ใช้บริการสายด่วน 1669, 1668 และ 1330 สำหรับประสานจัดหาเตียง แต่ไม่ได้รับความสะดวกหรือต้องรอนาน พร้อมกับเปิดเผยว่า ที่ประชุม EOC ของกระทรวงสาธารณสุข และ ศบค.ชุดเล็ก ได้มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาธิการ สมช.) เข้ามาบริหารจัดการระบบสายด่วนเพื่อจัดหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อ โดยจะมีการปรับระบบ เพิ่มทีมรับโทรศัพท์อีก 50 สาย เพิ่มเติมจากสายด่วนที่มีอยู่ และปรับให้ทีมรับสายด่วนทั้ง 3 เบอร์ เป็นทีมแรกในการรับข้อมูลสำคัญของผู้ติดเชื้อ จากนั้นโอนข้อมูลผู้ป่วยต่อให้สายพิเศษ 50 สาย เป็นทีมที่โทรกลับไปหาผู้ป่วยเพื่อประสานหาเตียง โดยในกลุ่มสายพิเศษ 50 สายนี้ จะแบ่งเป็น กลุ่มสีเขียว สีเหลือง และสีแดง สำหรับให้บริการประชาชนตามระดับอาการ
ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่รอเตียงอยู่ 1,423 คน ซึ่งเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) สามารถหาเตียงให้ผู้ป่วยได้แล้ว 474 คน โดยการปรับระบบใหม่นี้ จะเน้นหาสถานที่รักษาให้กับกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อยก่อน เพื่อจะให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้มีสถานที่รักษาโดยไม่ไปแพร่เชื้อสู่คนอื่น และระบายผู้ป่วยอาการไม่มากออกจากโรงพยาบาลไปยังโรงพยาบาลสนาม ส่วนกลุ่มผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอาการมากและอาการหนัก ขอให้รออีกนิด ทีมสาธารณสุขจะเร่งหาเตียงให้เร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จะเร่งจัดหาโรงพยาบาลสนามให้ผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว เพื่อจะได้นำเตียงในโรงพยาบาลมารองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ส่วนบุคลากรที่ทำหน้าที่รับสายด่วนนั้น มีทั้งแพทย์ พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ประมาณ 200 ชีวิต ล้วนแต่เป็นจิตอาสาเข้ามาทำงานรับสายด่วนโดยไม่มีวันหยุด และบางครั้งต้องทำงานข้ามวันข้ามคืน แต่ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่มาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้ล่าช้าไปบ้าง ซึ่งมีการปรับระบบการทำงานตลอดเวลา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนมากที่สุด