ผู้เชี่ยวชาญวางแนวทางรับมืออาการข้างเคียง 2 กลุ่ม หลังเกิดจากฉีดวัคซีนโควิด

กระทรวงสาธารณสุขวางแนวทางให้แพทย์รับมืออาการไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้นหลังรับวัคซีนโควิด-19 โดยแบ่งลักษณะออกเป็น 2 กลุ่ม

วันนี้ (23 เม.ย.) กระทรวงสาธารณสุขจัดประชุมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรับมืออาการไม่พึงประสงค์ทางระบบประสาท ภายหลังการได้รับวัคซีนโควิด-19 โดยระบุว่า จากกรณีพบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีน โควิด-19 ซึ่งส่วนใหญ่มักจะพบเป็นกลุ่มก้อน และเกิดในวัยรุ่นผู้หญิง รวมถึงเกิดขึ้นเร็วหลังฉีด คือ ในระยะเวลา 5–30 นาที

โดยกระทรวงสาธารณสุขจำเป็นจะต้องเตรียมการรับมือ โดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสาร การลดความเครียดความกดดันของผู้ป่วย เพื่อให้ผู้ป่วยมีความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจ มีความผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หากพบกรณีดังกล่าว ให้แพทย์ตรวจสอบว่าเป็นกรณีใด โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มที่ 1 คือ อาการที่เกิดจากความเครียดที่เป็นปฏิกิริยาหลังจากฉีดวัคซีน โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดนิยามของอาการนี้ว่า Immunization Stress-Related Response (ISRR) ซึ่งมักจะพบอาการเร็ว ภายใน 5–15 นาทีหลังฉีดวัคซีน อาการจะมีลักษณะ ร่างกายอ่อนแรง, อ่อนเพลีย, ชา, เกร็งกระตุก แต่ไม่มาก

กลุ่มที่ 2 คือ โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) จะมีอาการอ่อนแรงครึ่งซีก และจะต้องมีอาการค่อนข้างรุนแรง, ปากเบี้ยว, สื่อสารผิดปกติ

โดยหากเข้ากลุ่มแรก แพทย์อาจยังไม่ถึงขั้นต้องให้แอทมิทเข้าโรงพยาบาล โดยอาจจะมีการให้นอนพักชั่วคราว หากอาการดีแล้วก็กลับบ้านได้ แต่หากเข้ากลุ่ม 2 แพทย์ต้องไปดูแนวทางการรักษา Stroke ต่อไป

ส่วนกรณีที่ผู้รับวัคซีนแล้วมีอาการควรจะรับเข็ม 2 หรือไม่นั้น แพทย์ระบุว่า ขึ้นอยู่กับเคส หากมีอาการไม่มาก ก็สามารถรับวัคซีนเข็ม 2 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องงดรับหรือเปลี่ยนชนิดวัคซีน แต่หากมีอาการรุนแรง ก็อาจจะต้องงดรับ หรือเปลี่ยนชนิดวัคซีน