เปิดใจ ผู้ปกครองนักกีฬายิมนาสติก ถูกทหารยศเรือตรีแอบถ่ายภาพคุกคามทางเพศ

เปิดใจ ผู้ปกครองนักกีฬายิมนาสติก ถูกทหารยศเรือตรีแอบถ่ายภาพคุกคามทางเพศ

เปิดใจ ผู้ปกครองนักกีฬายิมนาสติก ถูกทหารยศเรือตรีแอบถ่ายภาพคุกคามทางเพศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ปกครองนักกีฬายิมนาสติก อยากให้ "ทหารยศเรือตรี" โดนโทษสูงสุดออกจากราชการ ด้านตำรวจ สน.ปทุมวัน รับแจ้งความ เตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกผู้ปกครองสอบปากคำเพิ่ม

จากกรณีทหารกองทัพเรือ ยศเรือตรี นายหนึ่ง ได้แฝงตัวเข้าไปแอบถ่ายภาพอนาจาร นักกีฬาเยาวชนยิมนาสติก ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 100 ราย ตั้งวันที่ 21 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ผ่านมา 7 เดือนแล้ว ทางด้านผู้เสียหาย ก็ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบและคำขอโทษจากนายทหารคนดังกล่าว

ล่าสุด วันนี้ (23 เม.ย.64) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย และตัวแทนผู้ปกครองนักกีฬาเยาวชนหญิงส่วนหนึ่ง ได้เดินทางเข้าให้ปากคำและแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน

หลังจากกลุ่มตัวแทนผู้ปกครองเข้าให้ปากคำเรียบร้อยแล้ว อีจันได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณแม่ของผู้เสียหายอายุ 16 ปี พร้อมกับเปิดเผยว่า เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งความ และลงสำนวนเป็นคดีไว้แล้ว ซึ่งต่อจากนี้จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และจะมีการเรียกกลุ่มผู้ปกครองรายอื่นๆ เข้ามาให้ปากคำและแจ้งความเพิ่มเติม เนื่องจากยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ยังไม่ได้เดินทางมาในวันนี้

ส่วนความกังวลของกลุ่มผู้ปกครองในตอนนี้ คือ กลัวว่าเรื่องจะเงียบหาย หรืออาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะนายทหารคนนี้น่าจะรู้ช่องโหว่ของกฎหมาย ส่วนบทลงโทษที่ทางกองทัพเรือได้ดำเนินการไปแล้วนั้น ตนมองว่าอันที่จริง นายทหารคนนี้ไม่ควรที่จะอยู่ในราชการแล้ว และไม่ควรมีกฎหมายใดๆ ปกป้องเขาได้ ตนอยากให้นายทหารคนนี้ได้รับโทษสูงสุดให้ออกราชการ แลมีการติดตามต่อว่ารูปถ่ายอนาจารเหล่านี้ถูกเผยแพร่ไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว

ในขณะที่ ผู้ปกครองชายที่เป็นผู้ล็อกตัวนายทหารในวันที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 21 ก.ย.63 ได้เปิดใจกับอีจันว่า ณ วันนั้น ตนถ่ายภาพอยู่ในสนามในจุดที่สมาคมจัดไว้ให้ หลังจากนั้นผู้ปกครองของสโมสรแห่งหนึ่ง แอบเห็นพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวที่นั่งอยู่บนอัฒจรรย์ผิดสังเกต และจำได้ว่าคนๆนี้ เคยแอบไปถ่ายที่ฝึกซ้อมทีมชาติ จึงแอบเดินไปดูด้านหลังในจังหวะผู้ก่อเหตุกำลังดูรูปที่ถ่ายพอดี จึงเห็นว่าภาพนั้นเป็นภาพที่ซูมเฉพาะจุด เรียกง่ายๆ ว่าเป็นการซูมเป้าช่วงล่างของนักกีฬา

ทางผู้ปกครองคนดังกล่าวจึงแจ้งเจ้าหน้าที่สนามผู้หญิง แต่ไม่กล้าไปคนเดียวจึงมาเรียกตนไปเป็นเพื่อน เมื่อขึ้นไปถึงเจ้าหน้าที่สนามก็เป็นคนเจรจาขอดูภาพในกล้อง แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมให้ดูภาพในกล้อง มีการโวยวายและมีการใช้เสียงข่มขู่ และมีการตะโกนออกมา "ผมเป็นทหาร ผมมีเกียรติ พวกคุณทำกับผมแบบนี้ไม่ได้"

เจ้าหน้าที่สนามจึงบอกกลับว่า ถ้าเป็นทหาร มีเกียรติก็ต้องยอมให้ตรวจสอบ แต่ชายคนดังกล่าวก็ไม่ยอมให้ตรวจสอบ ทั้งยังพยายามหนีจะออกจากอัฒจรรย์ให้ได้ จนเกิดการยื้อยุดกัน จนนายทหารคนดังกล่าวมีการถีบเจ้าหน้าที่ผู้หญิง 1 ครั้ง หลังจากนั้นผู้ปกครองสโมสรเห็นว่าน่าจะมีเรื่องจึงมีการบันทึกภาพไว้

ก่อนที่ตนจะควบคุมตัวชายคนเมื่อแย่งกล้องมาได้จึงมีการดึงเมมออกและเอาไปเปิดในคอมพิวเตอร์ส่วนกลางของสนามจนเห็นภาพอนาจารดังกล่าว

หลังจากนั้นจึงมีการเรียก รปภ.ของสนามกีฬาแห่งชาติคุมตัวไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน เข้าดำเนินการต่อ ซึ่งไม่นานพ่อของชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นอดีตทหารเรือ ก็มาขอเจรจาไกล่เกลี่ย ตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่นายทหารคนดังกล่าว กลับมาแจ้งความกลับตน 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และข่มขืนใจ เนื่องจากวันนั้น (21 ก.ย.63) ตนเป็นคนเซ็นลงบันทึกประจำวันไว้ กลายเป็นว่าตอนนี้ตนตกเป็นผู้ต้องหา ตอนนี้จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย แต่เบื้องต้น ตนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

เมื่อดูจากการกระทำดังกล่าว และพฤติกรรมที่ผ่านมา ที่มีการถ่ายภาพในลักษณะดังกล่าว ซึ่งนอกจากที่อาคารนิมิบุตรแล้ว ยังมีของวันที่ 15 เดือนสิงหาคม 2563 ที่ศูนย์ฝึกนักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทยเพชรเกษม 81 อีกด้วย นอกจากนี้ที่นายทหารคนดังกล่าวบอกว่าจะมาขอโทษแต่สุดท้ายก็ไม่มีการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้นนั้น ดูแล้วนายทหารคนนี้ไม่ได้มีความสำนึกในการกระทำแต่อย่างใด ตนจึงนำเรื่องนี้ร้องเรียนไปยังสมาคมยิมนาสติกแห่งประเทศไทยพร้อมทั้งกระจายข่าวนี้ให้ทุกสโมสรทราบ ทางผู้ปกครองจึงลุกฮือกันขึ้นมาอีกครั้ง จนนำมาสู่การเข้าแจ้งความเอาผิดกับนายทหารคนดังกล่าวในวันนี้ (23 เม.ย.64)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook