ปรับเวลาปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ ใน 18 จังหวัดโซนสีแดง 25 เม.ย. ถึง 2 พ.ค.

ปรับเวลาปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ ใน 18 จังหวัดโซนสีแดง 25 เม.ย. ถึง 2 พ.ค.

ปรับเวลาปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ ใน 18 จังหวัดโซนสีแดง 25 เม.ย. ถึง 2 พ.ค.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ยกระดับคุมโควิด-19 ปรับเวลาเปิด-ปิด ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ใน 18 จังหวัดโซนสีแดง 25 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคมนี้

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ มีอัตราการติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 8 แสนคน และมีแนวโน้มยังคงอยู่ในอัตราที่สูง โดยวันเสาร์ที่ 24 เม.ย. ประเทศไทยมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,839 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงสุดที่เคยปรากฏมานับแต่เกิดการแพร่ระบาดเมื่อปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดมีความรุนแรงและเป็นวงกว้างกว่าระลอกที่ผ่านๆ มา จากข้อมูลการแพร่ระบาด สัปดาห์หน้า (25 เม.ย.-2 พ.ค.) จะเป็นช่วง peak ของความเสี่ยงสูงสุดแล้ว 2 สัปดาห์หลังจากนั้น เป็นช่วงที่จะเห็นกราฟชัดเจน ว่าจะชี้ขึ้น หรือ ชี้ลง

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย แจ้งว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ตระหนักถึงความจำเป็นที่ต้องยกระดับมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโควิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง โดยสมาชิกสมาคมทั้งสองแห่งและภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ จะเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองผู้บริโภคเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า ในระดับสูงสุด

โดยประกาศ "เลื่อนการเปิด-ปิดศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ" เป็นเวลา 11.00-20.00 น. ยกเว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และร้านอาหารที่ตั้งในศูนย์การค้าจะยังคงให้บริการถึง 21.00 น. ส่วนร้านค้าสะดวกซื้อจะให้บริการตามเวลา 05.00–22.00 น. ทั้งนี้มีผลครอบคลุมเฉพาะพื้นที่สีแดง 18 จังหวัดเท่านั้น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. จนถึง วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. 2564 ยกเว้นจะมีประกาศของจังหวัดระบุอื่นใดนอกเหนือจากนี้

อย่างไรก็ตาม สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย ยังคงงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก รวมถึงการให้พนักงาน Work From Home เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ทุกหน่วยงานสามารถควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้า จะเป็นผู้นำให้เอกชนทุกภาคส่วนร่วมมือกันในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ให้จบเร็วที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook