เพื่อนซัด ศบค. ลงข้อมูล "อัพ VGB" ป่วยโควิด เสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว ทั้งที่จริงแข็งแรง

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

จากกรณีการเสียชีวิตของ นายกุลทรัพย์ วัฒนผล หรือ อัพ VGB ชายหนุ่มอายุ 34 ปี เกมเมอร์และผู้บุกเบิกวงการอีสปอร์ตไทย ซึ่งเสียชีวิตหลังจากติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากไม่สามารถหา รพ.เพื่อเข้าตรวจหาเชื้อโควิดได้ และกักตัวเองอยู่กับบ้านอยู่หลายวัน กระทั่งได้เข้ารับการรักษาที่ รพ. ตรวจพบเชื้อ แต่เชื้อลงปอดและทรุดหนัก ก่อนจะเสียชีวิต ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จากการตรวจสอบในเฟซบุ๊กของนายกุลทรัพย์ พบว่า วันที่ 20 เมษายน เจ้าตัวได้ไลฟ์ก่อนที่จะได้โรงพยาบาล บอกว่า ตนน่าจะร่วงแล้วล่ะ ตอนนี้อยากตรวจเพราะคิดว่าไม่น่ารอดแล้ว และมารู้ทีหลังว่าพบปะกลุ่มเสี่ยงมาด้วย ตอนนี้ออกไปไหนไม่ไหว เอาแค่เดินเข้าห้องน้ำก็จะตายแล้ว ตอนนี้ไม่อยากออกไปไหน พยายามรักษาตัวเองก่อน และแบกสังขารไปตรวจ รพ. ไม่ไหว รพ. รอบ ๆ ก็ติดต่อยาก หายใจลึกก็ไอ ไม่อยากอาหาร และเมื่อวันที่ 21 เมษายน นายกุลทรัพย์ เผยอีกว่าได้พยายามหาเตียงตามโรงพยาบาลหลัก แต่กลับเจอคนทั้งดุ ทั้งด่า ทั้งไล่ จนกระทั่งได้โรงพยาบาลและหมอต้องต่อท่อออกซิเจนทันทีเนื่องจากมีอาการหนัก

ล่าสุด เฟซบุ๊ก Nuttaporn Voonklinhom ของ นายณัฐพร วุ่นกลิ่นหอม นายกสมาคมการค้าดิจิทัลไทย (Thai Digital Trade Association : TDTA) ซึ่งเป็นเพื่อนของนายกุลทรัพย์ ผู้เสียชีวิต ได้แชร์ภาพจาก ศูนย์ข้อมูลโตวิด-19 ที่แจ้งรายละเอียดของผู้เสียชีวิตรายที่ 137 ที่ระบุว่ามีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน โรคอ้วน และปัจจัยเสี่ยงเสียชีวิต มาจากโรคประจำตัว

โดยนายณัฐพร ระบุข้อความว่า "เพื่อนผมไม่ได้เสียชีวิตเพราะโรคประจำตัว เค้าเสียชีวิต เพราะไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ พวกพี่ไม่ได้ดูคลิป Live สด ก่อนเค้าเสียเหรอครับ พี่ๆ ศบค. ทั้งหลาย เราก็รู้จักกันดี ถ้าลงสรุปแบบนี้ อย่าลงดีกว่า ผมเสียใจมาก"

ขณะที่เฟซบุ๊ก Kunlasub Wattnaphon ของนายกุลทรัพย์ ซึ่งเพื่อนสนิทเป็นผู้โพสต์แทน ก็ได้ระบุว่า

"อัพเป็นคนแข็งแรงมากจนเพื่อนๆ เรียกอัพว่าแมลงสาบ คือฆ่าไม่ตาย (เป็นสายพันธ์ที่ทนต่อ DDT ด้วย) ขนาดตอนรถล้มซันแขนหัก อัพยังเเค่ลุกมาปัดๆตัว อัพป่วยยากมาก 1 ปีจะป่วยหนักราวๆ ครั้งหนึ่ง ซึ่งโรคที่อัพป่วยได้ต้องเป็นโรคที่หนักเท่านั้น ไม่งั้นทำอะไรแมลงสาบตัวนี้ไม่ได้ อัพศึกษาการออกกำลังกายเเละอาหารเพื่อควบคุมสมดุลร่างกาย ขาและท้องอัพที่ใหญ่ก็กล้ามเนื้อทั้งนั้น ดังนั้น อยากให้กรณีของอัพเป็นอุทาหรณ์ให้คนตระหนัก ถึงอันตรายของโรคนี้ได้เเล้ว"