ปทุมธานี สั่งปิดสถานที่เสี่ยงโควิด-19 ขอร่วมมืองดออกนอกบ้าน 21.00-04.00 น.

ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ลงนามเมื่อวันจันทร์ (26 เม.ย.) ให้ปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด- 19) ชั่วคราว และขอความร่วมมือให้ประชาชนงดออกจากที่พักตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.

5 สถานที่ปิดชั่วคราว ผวาแพร่โควิด

1. สนามแข่งขันและฝึกซ้อมสัตว์ สนามชนโค สนามชนไก่ สถานที่ซ้อมประลองไก่ สนามปลากัด
2. สถานบริการ สถานประกอบการที่คล้ายสถานประกอบการ ผับ บาร์
3. ร้านเกม สถานที่เล่นตู้เกม เครื่องเล่น สวนน้ำและสวนสนุก ทั้งในและนอกศูนย์การค้า
4. ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา และสนามพระเครื่อง พระชูชา
5. สระว่ายน้ำสาธารณะ รวมถึงสระว่ายน้ำของหมู่บ้านหรืออาคารชุดพักอาศัย

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการ จ.ปทุมธานี ยังมีคำสั่งให้สถานที่ 6 กลุ่ม ต่อไปนี้ยังเปิดให้บริการได้ แต่จำกัดเวลาเปิดในแต่ละวัน และต้องทำตามเงื่อนไขควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด

5 สถานที่จำกัดเวลาเปิด

1. ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
   • ทานในร้านได้จนถึง 21.00 น. หลังจากนั้นให้นำไปบริโภคที่อื่น
   • จำหน่ายได้ถึง 23.00 น.
   • ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์
   • เปิดตามเวลาปกติ จนถึง 21.00 น.
   • จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ
   • งดจัดอีเวนต์และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
3. ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ต
   • เปิดตามเวลาปกติ จนถึง 23.00 น.
   • ส่วนร้านที่เปิด 24 ชั่วโมง ให้ปิดระหว่าง 23.00 น.-04.00 น.
4. ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดิน 
   • เปิดตามเวลาปกติ จนถึง 21.00 น.
5. สนามกีฬา ฟิตเนส
   • เปิดถึง 21.00 น.
   • จำกัดผู้ใช้บริการ
   • งดการเล่นแบบรวมกลุ่ม
   • งดซาวน่า
   • จัดแข่งขันโดยไม่มีผู้ชมได้

ขอประชาชนงดออกนอกบ้าน 21.00-04.00 น.

คำสั่งดังกล่าวยังขอความร่วมมือประชาชนงดออกจากที่พักอาศัยระหว่าง 21.00-04.00 น. ด้วย ยกเว้นมีเหตุจำเป็น

ไม่ใช่แค่นั้นยังขอความร่วมมือภาครัฐและเอกชนให้ทำงานจากที่พักอาศัย (Work from Home/เวิร์กฟรอมโฮม) สลับวันทำงาน หรือวิธีอื่นๆ ที่ลดการติดเชื้อ และงดการรับประทานอาหารร่วมกันเป็นหมู่คณะ

เอกสารนี้ยังระบุว่า ถ้าหากฝ่าฝืนอาจเผชิญกับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย

อย่างไรก็ตาม เอกสารดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าจะมีการเยียวยากิจการที่สั่งให้ปิดหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบเลย