เปิดใจ "หมอแนต" ทีมชุดหมีแบกคนไข้โควิดหนัก 100 กก. เจ้าหน้าที่เหนื่อยจนเป็นลม
จากกรณี พญ.อมล สิงห์สกุล อายุรแพทย์ ประจำโรงพยาบาลบ้านแพ้ว โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Amol Singhsakul เล่าอุปสรรคในการช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 เคสที่สุดทุลักทุเล ทีมแพทย์ต้องใส่ชุด PPE ป้องกันในการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อ ท่ามกลางอากาศยามบ่ายที่ร้อนจัด จนเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเป็นลม โดยที่เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่ไม่ได้สวมใส่ชุดป้องกัน ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้
ซึ่งหลังจากที่มีการโพสต์ภาพออกไปแล้ว ก็กลายเป็นเรื่องที่มีความโด่งดังทางโซเชียลเป็นอย่างมาก มีผู้เข้ามาชื่นชมและให้กำลังใจทีมแพทย์ ทำให้หลายคนอยากเห็นหน้าของแพทย์หญิงหัวหน้าทีมชุดหมีในเคสดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า หมอแนต หรือหัวหน้าทีมชุดหมี คือ แพทย์หญิงนิษฐา เอื้ออารีมิตร อายุรแพทย์โรคระบาดทางเดินหายใจและเวชบำบัดวิกฤตประจำ รพ.เอกชัย ซึ่งหมอแนต ก็ได้ออกมาเปิดใจเล่าถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ด้วยในสถานการณ์โควิด-19 ทำให้โรงพยาบาลเอกชัยมีผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ออกซิเจนแรงดันสูงจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็วเกิดความปลอดภัยต่อผู้ป่วยนั้น ทางทีมแพทย์ฯ เห็นสมควรว่า ต้องส่งคนไข้ไปรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งก็ได้ทางโรงพยาบาลบ้านแพ้วรับเคสคนไข้รายดังกล่าวไปอยู่ในการดูแลรักษา
ดังนั้นจึงได้รีบนำผู้ป่วยรายนี้ที่มีน้ำหนักว่า 100 กิโลกรัม ไปส่งภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วยการนอนบนเตียงครอบ และยังต้องลดจำนวนผู้สัมผัสใกล้ชิดให้น้อยที่สุด จึงมีผู้นำส่งผู้ป่วยรายนี้จากโรงพยาบาลเอกชัย ไปโรงพยาบาลบ้านแพ้ว เพียง 3 คนเท่านั้น คือ หมอแนต พยาบาลหญิง และคนขับรถ ซึ่งเมื่อไปถึงปรากฏว่า ล้อรถไม่กางออก อีกทั้งคนไข้ก็มีน้ำหนักมาก ทำให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขึ้นตึก เกิดความทุลักทุเลประกอบกับอากาศที่ร้อนและต้องใส่ชุด PPE ตลอดเวลา จึงเป็นเหตุให้คนขับรถที่ร่วมนำส่งด้วยนั้นเกิดอาการหมดแรงเพราะหายใจไม่ทัน จึงต้องไปนั่งพักดังภาพที่เห็น
ส่วนพยาบาลกับหมอแนต ที่เหลือเพียง 2 คน ก็ต้องช่วยกันประคองรถเข็นคนไข้เพราะกลัวว่าจะล้มลงไป ขณะรอให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านแพ้วมาช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อนำคนไข้เข้าตึกได้แล้ว หมอก็ไปดูพนักงานขับรถที่เป็นลมอยู่ที่พื้น โดยไม่ได้ถอดถุงมือ และไม่ได้ถอดชุดออก จึงต้องให้น้องคนขับรถต้องแยกโรคเพราะมีโอกาสสัมผัสความเสี่ยงสูง ซึ่งคนที่นำเชื้อไปให้น้องเขา คือ ตัวหมอแนตเองนี่แหละ หมอแนตระบุ
แพทย์หญิงนิษฐา ยังบอกอีกว่า ตนอยากบอกกับประชาชนให้เห็นใจกับบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงนี้ คือจริงๆ หมอคิดว่าเป็นหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่จะต้องดูแลคนไข้ทุกคนอยู่แล้ว จึงทำให้ช่วงนี้บุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก แต่ด้วยบริบทของโรงพยาบาลแต่ละสถานที่ ความจำกัดด้านอุปกรณ์และบุคลากรที่มีอยู่ บางครั้งจึงไม่สามารถดูแลได้ดีไม่ครบถ้วน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่หมอและบุคลากรทางการแพทย์ก็พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จึงขอแค่ให้ทุกคนเข้าใจ เป็นกำลังใจให้กับทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนให้สู้กับสถานการณ์โควิด-19 นี้