หนุ่มรมแก๊สตัวเองในรถ จนกระจกระเบิด แต่ไม่ตาย ออกมาผูกคอซ้ำดับสลด
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 เมษายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง จ.ระยอง รับแจ้งมีเหตุคนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านใน ซ.โรงน้ำแข็ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลมาบตาพุด รุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ข้างบ้านพบรถยนต์กระบะฟอร์ด 4 ประตู สีแดง สภาพกระจกหน้าแตก หลุดออกมากองอยู่ที่ฝากระโปรงรถ กระจกข้างประตูห้องโดยสารด้านซ้ายขวาแตก และประตูรถซ้ายขวาเผยอออกผิดรูปจากแรงระเบิดของแรงดันแก๊สในถังปิกนิก ก่อนจะไปพบร่าง นายอาทิตย์ อายุ 33 ปี ผูกคอตนเองอยู่กับขื่อคานในห้องน้ำภายในบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างลงมาก่อนส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลมาบตาพุด
จากการสอบสวนญาติ ยืนยันว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้นำถังแก๊สปิกนิกไปรมควันในรถ จนแรงอัดของแก๊สที่ผู้ตายเปิดเพื่อจะรมควันแก๊สตนเอง ได้ระเบิดจนมีเสียงดังสนั่น จนสภาพรถพังเสียหาย ซึ่งในขณะนั้นผู้ตายยังไม่ตาย จึงเดินออกมา แล้วไปผูกคอตนเองในห้องน้ำจนเสียชีวิต
สอบถามนายกฤษฏา อายุ19 ปี เป็นลูกพี่ลูกน้องของนายอาทิตย์ ผู้ตาย เล่าว่าพบผู้ตายเดินออกมาจากรถ หลังมีการระเบิดของแก๊ส ตนเองยังถามว่า รถระเบิดได้อย่างไร แต่ผู้ตายกลับไม่ตอบอะไร แล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ จนต่อมาตนเองเห็นเข้าห้องน้ำนานผิดสังเกต หลายชั่วโมงจึงไปแง้มประตูห้องน้ำดู ก็พบว่าแขวนคอตายอยู่กับขื่อคานในห้องน้ำ จึงไปเรียกญาติๆ และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยมาที่บ้าน
ส่วนสาเหตุการฆ่าตัวตาย ตนเองเชื่อว่ามาจากที่ผู้ตายมีอาการเครียด ทั้งในเรื่องงานที่ปกติผู้ตายจะต้องไปขับรถสิบล้อ ขนส่งสินค้าทุกวัน แต่ในช่วงนี้ทางบริษัทให้ทำงานอยู่ที่บ้าน หากมีงานจึงจะออกไปที่บริษัท จึงอาจเป็นไปได้ว่าจะมีความเครียดสะสม และรวมถึงผู้ตายได้ไปตรวจสุขภาพด้วยโรคประจำตัวที่มีอยู่ และหลังจากกลับมาผู้ตายมักบ่นว่า เกรงจะติดโควิด-19 จนเกิดความเครียด ซึ่งพบในจดหมายลาตายในรถ จึงสันนิษฐานว่าเป็นสาเหตุให้ผู้ตายฆ่าตัวตายจากที่กลัวติดโควิด-19
ขณะที่แพทย์เวร ชันสูตรผลิกศพพบว่า ลำคอของผู้ตายมีร่องรอยเชือกมัดแน่นจนขาดอากาศหายใจ ต้องนำร่างผู้ตายไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง เบื้องต้นญาติไม่ติดใจในการเสียชีวิตซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รอผลชันสูตรจากแพทย์ ถึงสาเหตุการตายที่แน่ชัด ก่อนจะอนุญาตให้นำร่างผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ