หนุ่มทำงานทองหล่อป่วยโควิด พ่อ-พี่ชายเสียชีวิตระหว่างกักตัว แม่ติดเชื้ออาการหนัก

หนุ่มทำงานทองหล่อป่วยโควิด พ่อ-พี่ชายเสียชีวิตระหว่างกักตัว แม่ติดเชื้ออาการหนัก

หนุ่มทำงานทองหล่อป่วยโควิด พ่อ-พี่ชายเสียชีวิตระหว่างกักตัว แม่ติดเชื้ออาการหนัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มทำงานทองหล่อป่วยโควิด ครอบครัวเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง สลด พ่อและพี่ชายเสียชีวิตระหว่างกักตัว แม่ติดเชื้ออาการหนัก

(30 เม.ย.64) เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.อ.วิโจน์  มูลมานัด รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตในขณะกักตัวอยู่ในบ้าน ซอยมังกรนาคดี ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำบลเทพารักษ์ และมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อเดินทางเข้าตรวจสอบ  

บ้านที่เกิดเหตุเป็นบาน 2 ชั้น เจ้าหน้าที่ต้องสวมใส่ชุดป้องกันการติดเชื้อ PPE อย่างมิดชิดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้าตรวจสอบ ที่บริเวณชั้นล่างได้พบร่างของ นายนพ (นามสมมติ) อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน ซึ่งคาดว่าน่าจะติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากก่อนหน้านี้น้องชายที่ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อ ได้เกิดล้มป่วยและไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาล ผลออกมาเป็นบวก และได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทำให้คนในบ้านที่อยู่ด้วยกัน 3 คน ต้องกักตัวรอดูอาการอยู่ภายในบ้าน รอเจ้าหน้าที่มารับตัวทั้งหมดไปตรวจหาเชื่อโควิด เนื่องจากเป็นบุคคลสัมผัสเสี่ยงสูง

ต่อมาเมื่อวันอังคารที่ 27 เมษายน ที่ผ่านมา บิดาวัย 60 ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้เสียชีวิต ทำให้เหลือผู้กักตัวในบ้านหลังดังกล่าวเพียง 2 คน  คือผู้เสียชีวิตและแม่วัย 72 ปี นอนป่วยอยู่ที่เตียงข้างๆ เจ้าหน้าที่ได้ทำการแยกตัวผู้เป็นแม่ออกห่างจากตัวผู้เสียชีวิต ก่อนที่จะนำร่างของผู้เสียชีวิตบรรจุลงซองซิปพลาสติกสองชั้นป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ ก่อนที่มูลนิธิจะทำการเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกจากบ้านหลังดังกล่าวเพื่อส่งชันสูตร 

นายอนันต์ อายุ 38 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า สำหรับครอบครัวนี้มีด้วยกัน 4 คน โดยลูกคนเล็ก อายุประมาณ 30 ปี ทราบว่าทำงาน อยู่ย่านทองหล่อ กรุงเทพมหานคร โดยจะเดินทางไปมาๆ ที่บ้านหลังนี้บ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อวันอังคารที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา ผู้เป็นพ่อวัย 60 ปี และเป็นผู้ป่วยติดเตียงได้เสียชีวิตลง โดยไม่ทราบว่าเสียชีวิตด้วยโรคโควิดหรือไม่ กระทั่งวันพุธที่ 28 เม.ย.ทราบว่า ลูกชายคนเล็กออกมาว่าติดเชื้อโควิด-19 และได้มีรถโรงพยาบาลนำตัวไปรักษาที่ รพ.กล้วยน้ำไท จนวันนี้ลูกชายคนโตมาเสียชีวิตลง ส่วนแม่ของผู้เสียชีวิตวัย 60 ปี ทราบว่ายังนอนอยู่ในบ้าน เพื่อรอเจ้าหน้าที่มารับ 

โดยนายสมพร อายุ 46 ปี ซึ่งมีบ้านพักอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านของผู้เสียชีวิต ได้เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยกันอยู่ 4 คน ร่วมน้องชายที่ติดเชื้อโควิดนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยก่อนหน้านี้ลูกชายคนเล็กของบ้านหลังดังกล่าวได้ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อ ย่านกล้วยน้ำไท และบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อแม่และพี่ชายพักอาศัยอยู่ พ่อเป็นผู้ป่วยติดเตียงมา 3 ปีแล้ว และก็สันนิษฐานว่าลูกชายคนนี้น่าจะเชื้อโควิดมาแพร่ที่บ้าน ซึ่งตัวพ่อเพิ่งเสียชีวิตเมื่อคืนวันอังคาร และเมื่อเช้านี้เป็นตัวลูกชายคนโตที่เสียชีวิตไปเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตอนนี้เหลือเพียงแม่คนเดียวที่ป่วยหนัก และทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำบลเทพารักษ์เพิ่งมารับตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

เจ้าหน้าที่รับตัวแม่ไปโรงพยาบาล

ส่วนตัวลูกชายคนเล็กที่ทำงานอยู่ในย่านทองหล่อ ได้ไปตรวจหาเชื้อแล้วแต่ผลออกเมื่อวันพุธว่าเป็นบวก แต่พ่อได้เสียชีวิตไปก่อนแล้วตั้งแต่วันอังคาร ก่อนที่ผลตรวจของลูกชายคนเล็กจะออกมาว่าติดเชื้อ และมาในวันนี้ลูกชายคนโตก็มาเสีย เหลือเพียงแม่คนเดียวที่ตอนนี้อาการหนักไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มีอาการไอและเหนื่อย ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะติดเชื้อ และหลังจากที่เจ้าหน้าที่รับตัวคนในบ้านออกไปหมดได้มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้ออีกครั้ง ยอมรับว่ากลัว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีผู้ติดเชื้ออีกรายแต่เอาไปรักษาหายแล้ว แต่หลังนี้น่ากลัวเพราะว่าผู้ป่วยไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อมาก่อน  

นายสุทนธ์ วงส์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำตำบลเทพารักษ์ ได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้จากข้อมูลพบว่า ลูกชายซึ่งทำงานอยู่ย่านทองหล่อ เดินทางไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ก่อนที่จะเดินทางมากักตัวอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพื่อรอผลต่อมาเมื่อวันที่ 27 เมษายน ผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่แล้วได้เสียชีวิตลงโดยไม่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโควิดหรือไม่ ทางครอบครัวจึงนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดหนามแดง กระทั่งวันที่ 28 เมษายน ทางโรงพยาบาล ได้โทรมาแจ้งผลลูกชายคนเล็กว่าติดเชื้อโควิด และรถของโรงพยาบาลได้เข้ามารับตัวไปรักษาในวันเดียวกัน ทำให้คนในบ้านกลายเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จึงได้ให้กักตัวอยู่ที่บ้านเพื่อรอดูอาการและจะประสานรถให้มารับตัวผู้เป็นแม่และลูกชายคนโต ไปตรวจหาเชื้อ

กระทั่งเช้าวันนี้ได้รับแจ้งว่า ลูกชายคนโต ซึ่งมีประวัติเป็นโรคหอบ ได้มาเสียชีวิตเพิ่มแต่ยังไม่ยืนยันว่ามาจากการติดเชื้อโควิดหรือไม่  จึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับนำตัวผู้เป็นแม่ไปตรวจหาเชื้อ ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook