สุดเศร้า "ดาบตำรวจ" ติดโควิดจากผู้ต้องหา มีไข้-หมดสติ เสียชีวิตระหว่างกักตัว
เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 ด.ต.จรังสรรค์ อ่อนจ้อย อายุ 50 ปี ตำรวจสังกัดศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 เสียชีวิตในห้องฉุกเฉิน ใน รพ.นครปฐม
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ก่อนเสียชีวิต ด.ต.จรังสรรค์ อยู่ระหว่างกักตัวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในห้องพักชั้น 4 ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ใน ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2564 และมีอาการป่วย มีไข้สูง ทานอาหารได้น้อย ไอ มาโดยตลอด จนกระทั่งตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และทำการฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 ที่ผ่านมา
น.ส.ธัญลักษณ์ หลานสาว ด.ต.จรังสรรค์ เผยว่า วันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา คุณน้าได้ไปจับคนร้ายที่ จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นชาวเมียนมา และนำคนร้ายไปตรวจหาเชื้อโควิด ปรากฏว่าติดโควิด
และทางหน่วยงานของคุณน้าก็ได้ให้ไปกักตัวที่โรงแรมดังกล่าวซึ่งเป็นที่สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดจากการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้กักตัวเป็นเวลา 14 วัน จนมาถึงช่วงวันที่ 24 เม.ย. 64 คุณน้าเริ่มมีไข้ และเริ่มเหนื่อยจนช่วงเวลาประมาณ 4 โมง คุณน้าก็หมดสติจึงได้แจ้งรถโรงพยาบาลรีบไปปฐมพยาบาล เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม ระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวใจเกิดหยุดเต้นไม่สามารถจะช่วยฟื้นคืนชีพได้
ส่วนของผู้ที่ใกล้ชิดคุณน้า ก็มีภรรยา ลูก และคนใกล้ชิดรวม 4 คน ตอนนี้ถูกกักตัวรอผลตรวจว่าจะติดเชื้อโควิดหรือไม่
ถึงอย่างไร ครอบครัวก็รู้สึกภาคภูมิกับคุณน้า ที่ปฏิบัติหน้าที่ดีที่สุด ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ สู้ต่อไปอย่าย่อท้อเพราะมันคือหน้าที่ และฝากให้ทุกคนระมัดระวังตัวกันด้วย เพราะโรคโควิดเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเราตลอดเวลา เราอย่าคิดว่าคนอยู่ใกล้ตัวเราไม่เป็น ควรใส่แมสก์อยู่ตลอดเวลา ล้างมือ และก็เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการที่อยู่ในชุมชนคนเยอะๆหรือจำนวนมากเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคโควิด-19
ด้าน พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม กล่าวว่า การเผาศพที่เป็นโควิด ศพนี้เป็นศพที่ 9 แล้ว โดยการดำเนินการเผาศพโควิดของวัดไผ่ล้อมนั้นเน้นความปลอดภัย การพ่นยาฆ่าเชื้อ ใส่ชุดป้องกัน ตั้งแต่รถขนศพจากโรงพยาบาล จะเข้ามาก็ต้องฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรอบบริเวณ และการตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมพิธี นั่งเว้นระยะห่าง เพื่อสร้างความปลอดภัย เมื่อรถขนศพเข้ามาก็จะมีเจ้าหน้าที่ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ และยกโลงศพขึ้นเตาเผาทันที
โดยพระสงฆ์สี่รูปจะสวดมาติกา และมีการทอดผ้าบังสุกุล ที่บริเวณด้านล่างฌาปนสถาน โดยมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงอยากจะฝากพระคุณท่าน หลวงพี่ หลวงพ่อ หลวงปู่ เจ้าอาวาสวัดทุกวัดให้ช่วยญาติโยมสงเคราะห์ในการเผาศพผู้ติดเชื้อโควิด ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เชื้อโควิดจะติดจากทางเดินหายใจคนตายแล้วเชื้อก็ตายแล้ว เพียงแต่ป้องกันให้ถูกวิธีเท่านั้นเอง ซึ่งหากวัดใดต้องการให้วัดอาตมาช่วยเหลือยินดีที่จะไปเป็นพี่เลี้ยงให้ เพื่อช่วยเหลือญาติโยมต่อไป