ผวาโควิด! ชายเร่ร่อนนอนตายปริศนา ญาติโผล่ยันมีโรคประจำตัว-มีบ้านแต่ไม่ยอมอยู่

ชายเร่ร่อนนอนตายปริศนาที่ศาลาริมทาง ญาติๆ โผล่ยันไม่มีประวัติเสี่ยงโควิด แต่มีโรคประจำตัว มีบ้านแต่ไม่ยอมอยู่

(2 พ.ค.64) เวลา 07.40 น. ร.ต.อ.นพดล ทวีชาติ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบศพมีผู้นอนเสียชีวิตอยู่ภายในศาลาพักผู้โดยสารริมทาง ถ.จรัญยานนท์ พื้นที่ ม.3 ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณทางสามแยกไปยังวัดนฤภัยประชาบำรุง จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ พร้อมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา จุดบางปะกง

ที่เกิดเหตุ พบร่างของผู้เสียชีวิตลักษณะผอมผิวคล้ำ ร่างกายลีบเล็กสูงประมาณ 160 ซม. นอนเสียชีวิตอยู่ภายในมุ้งซึ่งมีที่นอนสภาพเก่า ปูอยู่ที่พื้นกระดานบนศาลา ด้านล่างหน้าศาลาพบรถวีลแชร์จอดนอนตะแคงข้างอยู่ 1 คัน โดยมีชาวบ้านจำนวนกว่า 20 คน ยืนจับกลุ่มมุงดูอยู่ห่างๆ ทราบชื่อต่อมา คือ นายล้อต็อก อายุ 58 ปี ซึ่งมีบ้านอยู่ในบริเวณไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ

ท่ามกลางการระมัดระวังต่อโรคระบาดอย่างเข้มงวดของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทีมอาสาสมัครกู้ภัยฯ ที่เข้าไปยังในที่เกิดเหตุ ทั้งการฉีดพ่นล้างร่างกายด้วยสเปย์แอลกอฮอล์ และการสวมใส่ชุดป้องกัน PPE อย่างรัดกุม ในการเข้าไปตรวจสอบ และนำร่างของผู้เสียชีวิตออกมาจากในจุดพบศพ เนื่องจากในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ยังคงมีการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 อย่างรุนแรง ซึ่งล่าสุดมีผู้ป่วยมากถึง 343 ราย และเสียชีวิต 2 รายแล้ว จากการแพร่ระบาดครั้งใหม่รอบสถานบันเทิง

สอบถาม นายจักพันธ์ อายุ 54 ปี น้องชาย และนายทวี อายุ 56 ปี น้องเขยรวมถึงบรรดาญาติๆ อีกหลายคนต่างยืนยันว่า นายล้อต็อก มีโรคประจำตัวคือเบาหวานและความดัน ไม่ได้มีประวัติเป็นผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโรคโควิด-19 เนื่องจากเป็นผู้พิการขาไม่สามารถเดินทางไปไหนได้ไกล และมักเดินทางเร่ร่อนอยู่ตามหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยรถวีลแชร์เท่านั้น อีกทั้งขณะนี้ในพื้นที่ ต.หอมศีล ยังไม่พบว่ามีการตรวจพบผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ระลอกใหม่แต่อย่างใด

ที่ผ่านมาในพื้นที่มีผู้ป่วยติดเชื้อจากการระบาดระลอกแรกและระลอก 2 เท่านั้น แต่ได้รับการรักษาจนหายป่วยจากโรคโควิด-19 หมดแล้ว ซึ่งปกตินายล้อต็อกนั้น มีบ้านพักอาศัยเป็นของตนเอง และอยู่ในความดูแลของญาติพี่น้อง แต่ไม่ยอมเข้าไปพักอาศัย จึงได้ออกมาเร่ร่อนกินนอนอยู่ตามศาลาพักผู้โดยสารภายในหมู่บ้าน รวมถึงเข้าไปพักอาศัยภายในวัด หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการชันสูตรของเจ้าหน้าที่แล้วจะนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีปกติต่อไป