ศพแรกโควิดราชบุรี เจ้าอาวาสยินดีเผาให้ฟรี ยัน "ควัน" ลอยจากเมรุ ไม่เป็นอันตราย

ศพแรกโควิดราชบุรี เจ้าอาวาสยินดีเผาให้ฟรี ยัน "ควัน" ลอยจากเมรุ ไม่เป็นอันตราย

ศพแรกโควิดราชบุรี เจ้าอาวาสยินดีเผาให้ฟรี ยัน "ควัน" ลอยจากเมรุ ไม่เป็นอันตราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศพแรกโควิดราชบุรี เจ้าอาวาสบอกครอบครัวผู้เสียชีวิตให้นำมาทางวัดจัดการให้ ยืนยันควันลอยจากเมรุ ไม่เป็นอันตราย

(4 พ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังโลกโซเซียลได้แชร์เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นในวัดแห่งหนึ่งของจังหวัดราชบุรี เมื่อทางวัดได้ประกาศรับเผาศพของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตประชาสัมพันธ์ ผ่านโลกโซเชียลที่จังหวัดราชบุรี มีใจความว่า “เนื่องจากสถานการณ์โควิดที่กำลังเผชิญกันอยู่นี้ ท่านพระครูศาสนกิจวิบูลย์ ท่านเจ้าอาวาสวัดทุ่งตาล จ.ราชบุรี ท่านมีความเมตตาต่อครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิดนี้ โดยท่านเจ้าอาวาสจะทำการฌาปนกิจศพให้ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อนำร่างผู้เสียชีวิตมาถึงที่วัด ทางวัดจะทำการเผาศพให้ในทันที” ทำให้โลกโซเซียลต่างยกย่องชื่นชมในความมีเมตตาของวัดดังกล่าวเป็นอย่างมาก

โดยล่าสุดครอบครัวของหญิงสาววัย 35 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต ได้รับความเมตตาจากทางวัดประกอบพิธีเผาศพของหญิงสาวรายนี้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นผู้ป่วยโควิด-19 รายแรกของจังหวัดราชบุรี สร้างความซาบซึ้งใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อโควิด-19 รายนี้เป็นอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังที่วัดทุ่งตาล ตั้งอยู่ริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี โดยพบกับ พระครูศาสนกิจวิบูลย์ เจ้าอาวาสวัดทุ่งตาล และได้พาผู้สื่อข่าวไปดูระบบเตาเผาของทางวัด พร้อมทั้งเล่าเรื่องราวดังกล่าวว่า วันนั้นได้ทราบข่าวว่ามีผู้เสียชีวิต และเป็นครอบครัวที่มาทำบุญที่วัดเป็นประจำ และทราบว่ากำลังหาวัดที่เผาศพผู้ติดเชื้อโควิด ตนจึงได้แจ้งไปยังพระลูกวัดและเจ้าหน้าที่ประจำเมรุ และให้แจ้งไปทางครอบครัวผู้เสียชีวิตให้นำศพมาเผาที่วัด ทางวัดจะดำเนินการให้เอง โดยวันดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลราชบุรีได้นำร่างของผู้เสียชีวิตที่ถูกห่อมาด้วยกัน 3 ชั้น ซึ่งเราไม่ได้จับต้องหรือแกะออก ทางเจ้าหน้าที่จะไม่เข้าไปจับต้องกับศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สวมชุดป้องกันเป็นอย่างดี

ช่วงเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำศพเข้าเตาเผา เจ้าหน้าที่ประจำเมรุได้กดปุดปุ่มระบบเดินเครื่องเตาเผาเท่านั้น จนกระทั่งเผาเสร็จ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เผาร่างของผู้ตายจนเหลือแต่เถ้ากระดูก ซึ่งเตาเผาศพของทางวัดเป็นเตาเผา 2 ระบบ ทั้งระบบเครื่องเผาแบบเดินเครื่องด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง ผสมร่วมกับระบบไฟฟ้า มีระบบหัวเผา และ ระบบเผาควันก่อนปล่อยออกจากปล่อง ของเมรุ โดยใช้ระบบไฟสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส มีความปลอดภัยอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน นางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี หลังจากทราบข่าวจากสื่อว่าทางวัดรับเผาศพของผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตเป็นรายแรกของจังหวัดราชบุรี จึงได้ประสานปศุสัตว์อำเภอเมืองราชบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์หัก ได้นำน้ำยาสำหรับล้างทำความสะอาดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 พร้อมด้วยหน้ากากอนามัย หรือ แมสก์ มอบให้กับทางวัด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่สาธิตและนำน้ำยากไปฉีดพ้นบริเวณรองเมรุเผาศพ นอกจากนี้ยังฉีดพ่นโดยรอบศาลาด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทางญาติโยมที่มาประกิขทางศาสนากับทางวัด



ขณะที่ นางสาววิลาสินี สุพานิชวรภาชน์  รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเจดีย์หัก พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขฯ อบต.เจดีย์หัก, เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเจดีย์หัก และผู้นำชุมชนในพื้นที่ ได้เข้าตรวจถึงความพร้อมของเมรุเผาศพ ว่ามีความพร้อมสำหรับทำการเผาศพผู้ป่วยได้หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยกับทางเจ้าหน้าที่ประจำเมรุ และ ผู้ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากต้องใกล้ชิดกับศพผู้เสียชีวิตในขณะเผา พร้อมทั้งถวายน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อและเจลแอลกอฮอล์ เพื่อให้ปฏิบัติการเผ้าศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นางสาววิลาสินี กล่าวว่าจากประเด็นที่มีชาวบ้านยังกังวลใจว่า หากมีการเผาศพของผู้เสียชีวิตแล้วเกินควันจากการเผาลอยออกจากปล่องและพัดตามกระแสลมไปตามบ้านเรือนต่างๆ ซึ่งเกรงกลัวว่าจะได้รับเป็นอันตรายต่อสุขภาพจากเชื้อโควิด-19 ในเรื่องนี้อยากให้ประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบของวัด ซึ่งเตาเผาศพของที่วัดมีมาตรฐาน เผาด้วยอุณหภูมิ 1,000 องศา โดยระบบควันที่ลอยออกจากปล่อง ก่อนที่ควันจะออกไปนั้นภายในปล่องชั้นแรกจะมีพัดลมเป่า และ เผาควันก่อนออกจากป่องเมรุเผาศพด้วย จึงสร้างความมั่นให้กับชาวบ้าน ว่าได้รับความปลอดภัยอย่างแน่นอ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook