"รัฐมนตรีดีอีเอส" ตั้งทีมจับตากลุ่มเฟซบุ๊กย้ายประเทศกันเถอะ

"รัฐมนตรีดีอีเอส" ตั้งทีมจับตากลุ่มเฟซบุ๊กย้ายประเทศกันเถอะ

"รัฐมนตรีดีอีเอส" ตั้งทีมจับตากลุ่มเฟซบุ๊กย้ายประเทศกันเถอะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ดีอีเอส” ตั้งทีมจับตากลุ่มย้ายประเทศฯ หลังมีร้องเรียนสร้างความแตกแยก-หมิ่นสถาบันฯ ชี้แนะแนวศึกษา-อาชีพ ตปท.เป็นเรื่องดี เตือนอาจมีมิจฉาชีพแฝงหาประโยชน์

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวถึงกรุ๊ปเฟซบุ๊ก “ย้ายประเทศกันเถอะ” ที่กำลังเป็นกระแสในสังคมออนไลน์ ขณะนี้ว่า ดีอีเอสได้รับการร้องเรียน โดยผู้ร้องเรียนระบุว่า มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกสร้างความเกลียดชัง และยังมีการแสดงความคิดเห็นเข้าข่ายหมิ่นสถาบันด้วย อย่างไรก็ตามเท่าที่ติดตามเบื้องต้นพบว่า เนื้อหาส่วนใหญ่เป็นไปในเชิงแนะแนวการศึกษา และแนะนำแนวทางประกอบอาชีพในต่างประเทศ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี และหน่วยงานภาครัฐเองก็มีการให้ข้อมูล และให้การสนับสนุนผู้ที่มีความพร้อมมาโดยตลอดอยู่แล้ว ทั้งในแง่การไปศึกษาต่อในต่างประเทศ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ และกระทรวงการต่างประเทศเช่นเดียวกับการประกอบอาชีพที่มี กระทรวงแรงงาน เป็นผู้กำกับดูแล

ทั้งนี้ เท่าที่ติดตามหลายๆ โพสต์ก็เป็นเรื่องแนะแนวการศึกษา และการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ที่แฝงด้วยประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะสมาชิกกลุ่มบางคนที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศก็มีพฤติกรรมชังชาติอยู่แล้ว ก็มีวัตถุประสงค์แอบแฝงเพื่อสร้างความแตกแยก และหมิ่นสถาบันเบื้องสูง กระทรวงดีอีเอสมีคณะทำงานเพื่อตรวจสอบและติดตามการกระทำความผิดในสังคมออนไลน์อยู่แล้ว ก็ได้กำชับไปให้ตรวจสอบดูว่ามีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายหรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า หากเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการศึกษาหรืออาชีพในต่างประเทศ รัฐบาลคงไม่ปิดกั้น เพราะถือเป็นสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่ได้รับการคุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญแต่ก็มีความเป็นห่วงในบางข้อความที่ไม่เหมาะสม อาทิ การแนะนำวิธีลักลอบเข้าเมือง หรือการอาศัยอยู่เกินกำหนดอย่างผิดกฎหมายหรือที่เรียกว่าโดดวีซ่า ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมและอาจจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการพิจารณาให้วีซ่าคนไทยของประเทศปลายทางในอนาคตด้วย ที่สำคัญยังเป็นห่วงว่า กลุ่มดังกล่าวอาจเป็นช่องทางของขบวนการมิจฉาชีพใช้สังคมออนไลน์หลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งได้รับเรื่องร้องทุกข์กว่า 1500 เรื่อง ดังนั้นผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook