เปิดใจสาวหายจากโควิด สุดเศร้าไม่ได้เผาศพแม่ กลับมาบ้านเจ้าตูบคลอเคลียไม่ห่าง

เปิดใจสาวหายจากโควิด สุดเศร้าไม่ได้เผาศพแม่ กลับมาบ้านเจ้าตูบคลอเคลียไม่ห่าง

เปิดใจสาวหายจากโควิด สุดเศร้าไม่ได้เผาศพแม่ กลับมาบ้านเจ้าตูบคลอเคลียไม่ห่าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 4 พ.ค.64 เวลา 18.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับเจ้าของบ้าน ซึ่งป่วยด้วยโรคโควิด-19 ทั้งครอบครัว หลังหายป่วย ได้กลับมายังที่บ้าน ใน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกที่มีการตรวจพบเชื้อ จากคนในบ้านทั้งหมด 4 คน โดยเป็นหญิงสาววัยประมาณ 40 ปี ซึ่งเธอบอกว่า หลังจากได้รับอนุญาตจากทางแพทย์ผู้ทำการรักษาให้ออกมาจากโรงพยาบาลกลับมายังที่บ้านพักได้แล้ว ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 3 พ.ค. ก็ได้เดินทางกลับมายังที่บ้านพักในทันที

ซึ่งหลังจากกลับเข้ามาถึงยังที่หน้าบ้าน "เจ้าตัวเล็ก" สุนัขเพศผู้สายพันธุ์บางแก้วผสมสุนัขพันธุ์ไทยพื้นเมือง ซึ่งได้ทำหน้าที่เฝ้าบ้านและคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลทรัพย์สินแทนเจ้าของบ้านให้เป็นอย่างดีตลอดระยะเวลากว่า 14 วัน ที่ตนต้องเข้าไปรับการรักษาอาการป่วย ก็รีบกระโจนเข้ามาหาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ทั้งยังพยายามเข้ามาเล่นด้วย คลอเคลียอยู่ตลอดเวลา โดยตนเชื่อว่า ตลอดเวลาที่ไม่มีคนอยู่ที่บ้าน เจ้าตัวเล็กคงจะคิดถึง เพราะคนในบ้านหายหน้ากันไปหมด เป็นเวลานานถึงสองสัปดาห์ โดยมีเพื่อนที่คอยช่วยเหลือ นำอาหารมาให้เจ้าสุนัขระหว่างที่ไม่มีคนอยู่

เจ้าของบ้านเผยอีกว่า รู้สึกเสียใจมาก ที่เราไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ลูก หลังมารดาเสียชีวิตจากโควิด-19 ในขณะที่ลูกๆ ก็รักษาตัวอยู่เช่นกัน ไม่มีโอกาสได้ไปส่งครั้งสุดท้ายหน้าเมรุเผาศพด้วยซ้ำ ได้พบหน้าแม่ครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตเพียง 1 วัน ระหว่างที่แม่ถูกส่งตัวมาจาก รพ.บางน้ำเปรี้ยว โดยทำได้เพียงพูดคุย ให้กำลังใจแม่ บอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นกังวล

โดยตอนนั้น แม่ไม่ตอบสนองแล้ว หอบตลอดเวลา แต่ก็รู้สึกได้ว่า แม่พยายามที่จะพูดเพื่อให้ได้ยิน เชื่อว่ายังคงมีการรับรู้อยู่ แต่ไม่สามารถที่จะตอบสนองต่อคำพูดของเราได้ จากนั้นจึงได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ด้วยการนอนจากไปเฉยๆ ส่วนพิธีการทำบุญนั้นยังคงต้องรอให้พ้นจากช่วงของการกักตัวอีก 14 วันผ่านไปก่อน และยังต้องรอพี่สาวทั้ง 2 คนด้วยให้หายป่วยกลับมาด้วย

สำหรับโรคนี้เป็นโรคติดต่อที่ใครๆ ก็สามารถติดเชื้อได้ โดยที่เราเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเราติดเชื้อมาจากไหน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวนั้นก็รู้สึกเสียใจ ที่เราไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ เมื่อถามว่าการทำงานมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อหรือไม่ เธอบอกว่า ไม่ว่าจะการทำงานหรือจากที่อื่นก็มีโอกาสเสี่ยงทั้งนั้น เพราะหากเราอยู่ข้างนอกเราก็ไม่รู้ว่าเชื้อโรคนั้นมาจากไหน ส่วนการติดต่อกันในครอบครัวนั้นเป็นความใกล้ชิดกันก็ต้องติดต่อกันได้อยู่แล้ว

โดยก่อนถูกตรวจพบเชื้อนั้น มีอาการไข้ขึ้นและเมื่อไปตรวจแล้วจึงพบว่าติดเชื้อ โดยที่ตนทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลใน รพ.รัฐแห่งหนึ่งที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี หลังเข้ารับการรักษาแล้ว ผลการตรวจปอดในขณะนี้พบว่าปกติดีแล้ว แต่ทางแพทย์ยังต้องให้ทำการกักตัวอยู่ที่บ้านอีกเป็นเวลา 14 วัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook