สหราชอาณาจักร แนะเลี่ยงฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าคนอายุไม่เกิน 40 หวั่นลิ่มเลือด
รัฐบาลสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันศุกร์ (7 พ.ค.) ว่าจะเสนอวัคซีนอื่นแทนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดแก่คนอายุไม่ถึง 40 ปี เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับการเกิดลิ่มเลือด แม้เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้ยากก็ตาม
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรเปิดให้ประชาชนที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีจองคิวฉีดวัคซีน แต่หลังจากนั้น คณะกรรมการร่วมด้านวัคซีนและการสร้างภูมิคุ้มกันของประเทศ ออกข้อแนะนำว่าคนอายุ 30-39 ปีก็ควรงดฉีดวัคซีนนี้ด้วย เพิ่มเติมจากที่เคยแนะนำให้งดฉีดวัคซีนนี้กลุ่มคนอายุไม่ถึง 30 ปี เพราะเสี่ยงเกิดลิ่มเลือดเช่นกัน
วัคซีนโรคโควิด-19 ที่แอสตร้าเซนเนก้าพัฒนาขึ้นมา ถือเป็นวัคซีนหลักที่สหราชอาณาจักรฉีดแก่ประชาชน แต่ข้อแนะนำใหม่นี้จะส่งผลให้ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 40 ปี เหลือทางเลือกวัคซีนอีกเพียง 2 ยี่ห้อที่สหราชอาณาจักรอนุมัติให้นำมาฉีดได้ คือ ของวัคซีนจากไฟเซอร์ อิงค์ ที่พัฒนาร่วมกับ ไบออนเทค เอสอี ไม่ก็วัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ เท่านั้น
ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนแก่ผู้ใหญ่ทุกคนทั้งประเทศภายในเดือน ก.ค. นี้
เมื่อราว 1 เดือนที่แล้ว สหราชอาณาจักรเคยสั่งงดฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้แก่คนอายุไม่ถึง 30 ปี ซึ่งขณะนั้นพบว่ามีผู้เกิดลิ่มเลือด 79 ราย ซึ่ง 19 รายในกลุ่มนี้เสียชีวิต แต่ก็ถือว่าเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะขณะนั้นสหราชอาณาจักรฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไปแล้ว 20 ล้านโดส
ส่วนความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดจากข้อมูลล่าสุดอยู่ที่ 10.5 คนต่อ 1 ล้านคน หลังจากได้รับวัคซีนโดสแรก แต่ความเสี่ยงเดียวกันนี้ในกลุ่มอายุ 30-39 ปี กลับสูงถึง 17.4 คนต่อ 1 ล้านคน