เสมียนสาววัย 42 ติดโควิด เก็บตัวเงียบไม่ให้สอบสวนโรค สุดท้ายพบเป็นศพคาบ้าน

เสมียนสาววัย 42 ติดโควิด เก็บตัวเงียบไม่ให้สอบสวนโรค สุดท้ายพบเป็นศพคาบ้าน

เสมียนสาววัย 42 ติดโควิด เก็บตัวเงียบไม่ให้สอบสวนโรค สุดท้ายพบเป็นศพคาบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงวัย 42 เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เก็บตัวเงียบไม่ให้ จนท.สอบสวนโรค สุดท้ายเสียชีวิตคาบ้าน ผลชันสูตรพบติดโควิด

(9 พ.ค.64) เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้รับการประสานงานให้เคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ ที่บ้าน ม.7 ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพบประวัติสุ่มเสี่ยงเพราะสัมผัสผู้ที่ติดโควิด

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง เป็นร้านขายอาหารสัตว์ ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านได้ เนื่องจากมีสุนัข จำนวน 2 ตัว นั่งเฝ้าศพอยู่ข้างๆ เจ้าหน้าที่ต้องประสานปศุสัตว์อำเภอบางคล้า ให้นำวัคซีนผสมยาสลบมายิงสุนัข ก่อนชุดปฏิบัติการที่สวมชุด PPE จะเข้าไปเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด-19 และแพ็คศพด้วยถุง 3 ชั้น จากนั้นจึงฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามขั้นตอน ก่อนจะทำการเคลื่อนย้ายศพออกมาข้างนอก และเคลื่อนย้ายไปยังฌาปนสถานวัดหัวสวน ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรอผลการยืนยันตรวจหาเชื้อโควิด-19

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอบางคล้า เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตคือ หญิงอายุ 42 ปี เป็นเสมียนประจำร้านขายอาหารสัตว์ และพักอาศัยอยู่ภายในร้าน

เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคอำเภอได้รับการประสานข้อมูลมาจากจังหวัดสมุทรปราการ ว่า ผู้ตายและแฟนสาว มีประวัติสุ่มเสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ หลังเดินทางไปร่วมงานศพบิดาของแฟนสาวที่จังหวัดสมุทรปราการก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ พยายามเข้ามาบ้านหลังดังกล่าวเพื่อสอบสวนโรคถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ตายปิดบ้านเงียบไม่ยอมออกมาพบเจ้าหน้าที่ และจากการสอบถามเพื่อนบ้านก็ทราบว่า ช่วงพักหลังผู้ตายจะไม่ออกมาจากบ้านพัก ใช้วิธีการตะโกนสั่งงานลูกน้อง หรือโทรศัพท์สั่งงาน โดยตัวเองจะอยู่แต่ภายในห้องพัก ซึ่งชาวบ้านก็รู้สึกแปลกใจถึงพฤติกรรม จนเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2564 ลูกน้องโทรศัพท์หาและเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ

19.30 น. วันเดียวกัน พระลูกวัดหัวสวน ได้รับโทรศัพท์ยืนยันจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของ น.ส.ชรินดา เป็นบวก ให้เร่งดำเนินการเผาร่าง จึงได้ให้พระลูกวัดพร้อมสัปเหร่อกดไฟเผาศพทันที

นายไพโรจน์ บุญหิรัญ หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา (ชุดสก๊อต) เปิดเผยว่า ตนเองได้รับการประสานงานจาก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดบางคล้า ว่าพบศพผู้เสียชีวิตสุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการนี้เข้าไป ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค ก่อนจะเคลื่อนย้ายนำศพออกมาไว้ที่เชิงฌาปนสถานวัดหัวสวน อยากให้มีหน่วยงานที่รับเรื่องประสานงานโดยตรง เมื่อต้องจัดการศพผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพราะวันนี้กว่าจะหาที่นำร่างผู้เสียชีวิตมาไว้ได้ ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง เนื่องจากไม่มีหน่วยงานไหนสามารถระบุได้ ว่าต้องดำเนินการกับศพลักษณะนี้อย่างไร ตนเองและน้องๆ ต้องทนร้อนอยู่ในชุด PPE หลายชั่วโมงเนื่องจากยังไม่เสร็จสิ้นภารกิจ ไม่สามารถถอดออกได้ จึงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐ จัดกำหนดทิศทางหรือสถานที่เฉพาะเพื่อนำศพลักษณะนี้ไปเก็บรักษาไว้ รอผลตรวจยืนยันก่อนดำเนินตามขั้นตอนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook