เตรียมพร้อม! สธ.จ่อปลดล็อกทุกกลุ่มลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด หลังได้ล็อตใหญ่ต้น มิ.ย.
กระทรวงสาธารณสุขเล็งปลดล็อกให้ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนโควิดได้ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณวัคซีนล็อตใหญ่ที่จะได้รับในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
วันนี้ (13 พ.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพิจารณาปลดล็อกให้กลุ่มประชาชนทั่วไปที่ต้องการจะลงทะเบียนจองคิวการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถลงทะเบียนได้หลังได้รับมอบวัคซีนในช่วงต้นเดือน มิ.ย. เพื่อพิจารณาให้สอดคล้องกับปริมาณวัคซีนที่จะเข้ามา
สืบเนื่องจากผลการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ที่มีมติจะปูพรมกระจายการฉีดวัคซีนให้กับคนไทยทั่วประเทศได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้มีการเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้นและประชาชนเข้าถึงได้ง่าย แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามา โดยในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. จะมีวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าเข้ามาอีก 16 ล้านโดส และการปรับแผนการฉีดจะถูกออกแบบให้คล่องตัวมากที่สุด และให้โรงพยาบาลจัดแผนการฉีดในสถานที่ของเอกชน และหากมีปัญหาจากการฉีดวัคซีนจะต้องสามารถนำไปรักษาพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายสาธิต เปิดเผยว่า วัคซีนโควิดล็อตใหญ่จะเข้ามาในช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้ แต่ในพื้นที่ กทม.ซึ่งมีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากในขณะนี้ จึงได้มีการจัดสรรวัคซีนล็อตพิเศษให้กับ กทม. ไป 1 ล้านโดส และทาง กทม.จะไปวางแผนจัดจุดฉีดวัคซีนให้กับประชาชน รวมถึงฉีดในโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วม เพื่อจะเร่งดำเนินการฉีดให้เร็วกว่าที่อื่นก่อน
สำหรับแผนการฉีดจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
1. ฉีดให้กับกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังก่อน ซึ่งได้เปิดให้ลงทะเบียนผ่านระบบ หมอพร้อม เพื่อจองคิวฉีดไปแล้ว
2. การฉีดแบบกลุ่มทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น การฉีดให้กับกลุ่มคนในโรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ตำรวจ คนขับแท็กซี่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนทำงานที่มีความเสี่ยง ซึ่งกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้วางแผนรูปแบบในการฉีด ซึ่งหากจะให้มีการฉีดในสถานที่เอกชนนั้นๆ ต้องพิจารณาว่าอยู่ใกล้โรงพยาบาลหรือไม่ หรือต้องมีการจัดเตรียมรถพยาบาลจากจุดที่ฉีดไปยังโรงพยาบาลไม่เกิน 15 นาที เพื่อความปลอดภัยของคนที่ฉีดวัคซีน และในพื้นที่ กทม. ให้ติดต่อกับ กทม.โดยตรง ส่วนต่างจังหวัดให้ติดต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
3. กลุ่มที่ต้องการวอล์กอิน ซึ่งรายละเอียดให้ทางกรมควบคุมโรคไปพิจารณา แต่จะให้ความสำคัญรองลงมาจากการลงทะเบียน และกลุ่มที่จะวอล์กอินต้องยอมรับเงื่อนไขที่อาจไม่สะดวกนัก เช่น ในแต่ละสถานที่อาจมีการจำกัดปริมาณการฉีดในแต่ละวัน และหากจะวอล์กอินอาจจะไม่ได้ฉีดในวันนั้นทันที เพราะเกินโควตาการฉีดในวันนั้นๆ การลงทะเบียนผ่านระบบ หมอพร้อม จึงยังเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะได้รับการฉีดวัคซีนแน่นอนและสามารถวางแผนชีวิตได้
