สาววัย 20 เหยื่อสามีแทงดับ โทรหาแม่ก่อนขาดใจตาย ป้าเล่าความฝันเป็นลางร้าย
จากกรณี นายชัยวัฒน์ อายุ 26 ปี หรือ แม็กกี้ ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงภรรยา น.ส.อารีญา หรือ น้องแบม อายุ 20 ปี ภายในบ้านพักเสียชีวิต เนื่องจากผู้ก่อเหตุมเมาสุราและมีความหึงหวงภรรยาที่แต่งงานกันได้เพียง 2 เดือน และฝ่ายสามีอ้างว่าภรรยานอกใจ แต่คนในครอบครัวฝ่ายชายยืนยันว่าน้องแบมเป็นภรรยาที่ดี และไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
นางบุญแฝง อายุ 53 ปี ป้าของผู้เสียชีวิต ให้การว่า ผู้ตายเป็นลูกสาวของน้องสาวตนที่เดินทางไปทำงานที่ กทม. และตนเลี้ยงหลานสาวมาตั้งแต่ยังเล็ก ตนทราบข่าวจากแม่ของผู้ตายได้โทรศัพท์มาบอกว่าน้องแบมหลานสาวถูกสามีแทงหายใจรวยรินอยู่ภายในห้องนอน และไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะตอนหลานสาวโทรไปบอกแม่ที่ กทม. ให้มาช่วยเหมือนกับจะขาดใจตายแล้ว ตนจึงรีบมาดูพบว่าเป็นเรื่องจริง และมีชาวบ้านยืนมุงดูกันจำนวนมาก จึงเดินเข้าไปดูพบเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.นาพู่ กำลังปั๊มหัวใจ และชีพจรเต้นอ่อนมาก ตนจึงบอกว่าไม่ต้องปั๊มแล้ว น้องแบมน่าจะเสียชีวิตแล้ว ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเพ็ญและยืนยันเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ แต่ก็เห็นหลานสาวกับสามีขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานด้วยกันทุกวัน
ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนฝันเป็นลาง เห็นย่าของหลานสาวเดินร้องไห้มาที่บ้านของตนมีเลือดอาบไปทั่วร่างกาย จึงถามไปว่าเป็นอะไร แต่ย่าของหลานสาวไม่ยอมพูดด้วย ตนเชื่อว่าเป็นฝันร้ายจึงไม่พูดให้ใครฟัง ก่อนไปพูดแก้เคล็ดที่ห้องน้ำหน้าส้วม ตามคำคนโบราณบอกไว้ว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี และออกจากบ้านไปทำงานหางตาด้านขวากระตุกหลายครั้ง ซึ่งคนโบราณบอกไว้ว่า “ซ้ายได้หัวเราะ ขวาได้ร้องไห้”
กระทั่งบ่ายสามโมงกว่า น้องสาวโทรศัพท์มาบอกว่า น้องแบมถูกสามีใช้อาวุธมีดแทงบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้น้องแบมก็ได้ฝันว่าฟันหลุดหลายครั้ง ตนก็บอกให้เข้าไปพูดแก้เคล็ดในห้องน้ำอีก
พ.ต.อ.ชลิต ศรีหานู ผกก.สภ.เพ็ญ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบอาวุธมีดปลายแหลมที่สามีผู้ตายใช้ก่อเหตุ 1 ด้าม และมีคราบเลือดบนที่นอน หลังก่อเหตุสามีได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี และเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี จึงให้ตำรวจสืบสวน สภ.เพ็ญ ไปควบคุมคนร้ายมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก ส่วนสาเหตุเป็นเรื่องหึงหวง และมีปากเสียงทะเลาะกัน หลังจากแต่งงานกันเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุ ”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป