ผวาแคมป์คนงาน-ตลาด ทำยอดโควิดพุ่ง ด้าน กทม. เร่ง ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง

ผวาแคมป์คนงาน-ตลาด ทำยอดโควิดพุ่ง ด้าน กทม. เร่ง ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง

ผวาแคมป์คนงาน-ตลาด ทำยอดโควิดพุ่ง ด้าน กทม. เร่ง ฉีดวัคซีนกลุ่มเสี่ยง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศบค. ห่วง คลัสเตอร์ ตลาดสด แคมป์คนงาน ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ทำยอด โควิด พุ่ง ขอห้ามเคลื่อนย้ายคนงาน -เข้มสวมหน้ากากอนามัย

แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ระบุว่า ที่ประชุม ศปก.ศบค. ยังคงมีความเป็นห่วงเรื่องการเดินทางเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติแบบผิดกฎหมาย ซึ่งยังคงมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ คือ นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร และนครปฐม ซึ่งยังพบตัวเลขผู้ป่วย โควิด ที่สูงอยู่

ส่วนเรื่องความต้องการเตียงขณะนี้เตียงสำหรับผู้ป่วยสีเขียว ยังคงอยู่ในระดับที่รองรับได้ แต่ที่น่าห่วงคือเตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดง และเตียงสำหรับผู้ป่วยสีเหลือง ซึ่งขณะนี้เตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงอยู่ในลักษณะตึงตัว

แพทย์หญิงอภิสมัย ระบุว่า ที่ประชุมยังมีความเป็นห่วง 5 คลัสเตอร์หลัก คือ ที่แคมป์คนงานเขตหลัก 4, แคมป์คนงานเขตวัฒนา, เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย, ตลาดห้วยขวาง และดินแดง พบว่ามีการกระจายแคมป์ ทั่ว กทม. กว่า 393 แคมป์ และมีคนงานเกือบ 60,000 คน ซึ่งมีทั้งแรงงานไทย และแรงงานเพื่อนบ้าน โดยพบว่ามีการเดินทางข้ามพื้นที่ ซึ่งจากนี้จะมีการกำหนดมาตรการเตรียมประกาศใช้ สำหรับผู้ประกอบการเกี่ยวกับคนงาน โดยจะขอความร่วมมือ เช่น จัดที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางไม่ให้มีความแออัด ให้มีการเว้นระยะห่างจัดให้มีแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงห้ามเคลื่อนย้ายคนงาน เป็นต้น ซึ่งจะมีการจัดเป็นรูปแบบ Bubble and Seal

ส่วน ศบค. เตรียมออกข้อกำหนดยกเว้นการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อรองรับการประชุมของสภาฯ พญ.อภิสมัย ระบุว่า ไม่มีการยกเว้นข้อกำหนด ตอนนี้ยังใช้ข้อกำหนดที่ 22 ที่ระบุว่า ให้สวมหน้ากากผ้าหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นการบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม มีการพูดคุยกันว่าในระยะเวลาอันใกล้นี้ จะมีการประชุมระดับประเทศ หรือระดับท้องถิ่น ซึ่งหากมีการประชุม ต้องย้ำว่า มีการสนับสนุนให้เกิดการประชุมออนไลน์ให้มากที่สุด แต่กรณีที่มีความจำเป็นต้องจัดการประชุมที่มีการรวมกันจะให้ยึดที่ข้อกำหนดที่ 22 รวมถึงมีการขยายแนวปฏิบัติเพิ่มเติมในสถานการณ์จำเพาะให้มีการผ่อนผันการสวมหน้ากากอนามัยได้

โดยผู้ควบคุมการประชุม ซึ่งอาจจะเป็นประธานในที่ประชุม และเน้นย้ำว่าผ่อนผันได้เฉพาะในช่วงการอภิปรายแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะผู้ที่ทำการอภิปรายเท่านั้น และที่ประชุมจะมีการกำหนดออกมาตรการต่างๆ ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว เช่น ประธานในที่ประชุมมีการผ่อนผันการสวมหน้ากากผู้อภิปราย จะไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่ผู้ที่อยู่ในที่ประชุมทั้งหมด จะต้องสวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการเว้นระยะห่างตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด หากมีการผิดต่อข้อกำหนดเหล่านี้ จะมีบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่หากเห็นว่า มีการปฏิบัติไม่ถูกต้องจะมีการตักเตือน และหากทำผิดซ้ำ จะมีการบังคับใช้ข้อกฏหมาย

กทม. เร่ง ฉีดวัคซีน กลุ่มเสี่ยง คนขับรถสาธารณะ ครู ก่อนเปิดเทอม ผู้ว่าฯสั่งคุมเข้มคลัสเตอร์ตลาดสด แคมป์คนงาน ขณะเปิดนั่งร้านอาหารทำตามระเบียบ ศบค.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ตรวจเยี่ยมการ ฉีดวัคซีน โควิด-19 ที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งในวันนี้เป็นการเปิดให้บริการสำหรับกลุ่มพนักงานขับรถขนส่งสาธารณะ ที่ให้บริการกับประชาชนเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานขับรถเมล์ ขับรถไฟฟ้า คนขับเรือ ประมาณ 1,000 คน และจะทยอยฉีดให้ครบ ประมาณ 7,000 คน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานเอง จากนั้นจะมีการเร่งให้บริการสำหรับ ครู อาจารย์ ในโรงเรียนของสังกัดกรุงเทพมหานคร และอื่นๆ ประมาณ 170,000 คน เพื่อรองรับเปิดเทอมที่กำลังจะมีขึ้น แต่จากตัวเลขของผู้ติดเชื้อจำนวนมากในเวลานี้ การเปิดเทอมที่จะถึงนี้อาจจะยังไม่สามารถทำได้เพราะยังถือว่ามีความเสี่ยงสูง

อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯ พร้อมกระจายวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วที่สุด โดยหลังจากนี้จะให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ขับรถแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ผู้ที่มีอาชีพดูแลผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ซึ่งจะพิจารณาทยอยฉีดวัคซีนให้ตามลำดับความจำเป็น หลังจากกรุงเทพฯได้รับจัดสรรควัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุขมากขึ้น โดยภายในเดือนพฤษภาคมนี้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชน ได้ 5-6 แสนคน และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป จนถึงสิ้นปีเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 1-1.5 ล้านคน และจะได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมด สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นในประเทศได้

ผู้ว่า กทม. สั่งคุมเข้มคลัสเตอร์ตลาดสด แคมป์คนงาน ใน กทม. ลดจำนวนคนติดเชื้อ ขณะเปิดนั่งร้านอาหารทำตามระเบียบ ศบค.

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า มีความเป็นห่วงคลัสเตอร์ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นแคมป์คนงานหรือตลาดสด โดยได้มีการสั่งดูแลให้จำกัดผู้ติดเชื้ออยู่ภายในพื้นที่ โดยในตลาดสดต่างๆ ให้ปิดเพื่อทำความสะอาดระมัดระวังไม่ให้มีการแพร่เชื้อเพิ่มมากขึ้น

ในส่วนของแคมป์คนงานต่างๆ จะใช้มาตรการปิดให้คนงานอยู่เฉพาะภายในพื้นที่จำกัดวงของผู้ติดเชื้อให้อยู่เฉพาะจุด อาจใช้โมเดลการควบคุมใกล้เคียงกับจังหวัดสมุทรสาคร เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค

และสำหรับกรณีที่มีข้อเสนอในเรื่องของการขอผ่อนผันถอดหน้ากากอนามัย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น ทางกรุงเทพฯ เห็นว่าเป็นหน้าที่ของประธานสภา ที่จะเป็นผู้พิจารณาในเรื่องของการกำหนดมาตรการต่างๆ โดยทางสภา ยังไม่ได้มีการส่งหนังสือใดๆ มาถึงกรุงเทพฯ แต่ในรายละเอียดเชื่อว่าทางสภาจะสามารถดูแลได้

และสำหรับการผ่อนผันให้สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้แล้วนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ทาง ศบค. กำหนดอย่างเคร่งครัดและเชื่อว่าจะสามารถดูแลให้การประกอบธุรกิจอยู่ในระดับที่ปลอดภัยได้ และเชื่อว่าร้านอาหารไม่ใช่คลัสเตอร์ของการแพร่เชื้อ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook