ผัดฟ้องครั้งที่ 2 นักข่าวเมียนมายังเชื่อมั่น ทางการไทยจะไม่ส่งกลับประเทศ
5 นักข่าวเมียนมายังเชื่อมั่น ทางการไทยจะไม่ส่งกลับประเทศ ล่าสุดทำสำนวนยังไม่เสร็จ ผัดฟ้องเป็นครั้งที่ 2
ความคืบหน้ากรณีที่ฝ่ายปกครองและตำรวจ สภ.สันทราย เข้าจับกุมผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว Democratic Voice of Burma หรือ DVB จำนวน 3 คน และ ผู้ติดตามอีก 2 คน ภายในบ้านเช่า ม.3 ต.สันทราย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ที่ผ่านมา หลังพบว่าลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
คดีนี้นานาชาติต่างจับตาท่าทีของไทย พร้อมแสดงความกังวลและเรียกร้องให้ทางการไทยไม่ผลักดันทั้งหมดกลับประเทศ ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เพราะเป็นที่แน่นอนว่าทั้งหมดจะถูกจับกุมดำเนินคดีทันทีที่ถูกส่งตัวกลับจากการปราบปรามสื่อมวลชนที่ต่อต้านรัฐประหารอย่างหนัก
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (21 พ.ค.64) นางสาวปสุตา ชื่นขจร ทนายความมูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา เดินทางเข้าเยี่ยมนักข่าวและผู้ติดตามทั้ง 5 คน ที่ถูกกักขังไว้ที่ศูนย์คัดกรองกลุ่มเสี่ยง งานต้องห้ามและส่งกลับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเชียงใหม่ โดยระบุว่าทั้ง 5 คน สุขภาพแข็งแรง สภาพจิตใจดี มีความกังวลเรื่องคดีอยู่บ้างแต่ยังมีกำลังใจ ถึงวันนี้ทั้งหมดทราบว่านานาชาติจับตาและให้ความสำคัญ ทำให้รู้สึกมีกำลังใจและเชื่อว่าทางการไทยจะไม่ส่งตัวกลับ
ส่วนความคืบหน้าการดำเนินคดีในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ในวันนี้มีการยื่นคำร้องขอฝากขังและผัดฟ้องเป็นครั้งที่ 2 ทางระบบอิเลกทรอนิกส์ เนื่องพนักงานอัยการจากยังทำสำนวนไม่เสร็จ คดีนี้อยู่ในอำนาจศาลแขวงเชียงใหม่ พนักงานอัยการสามารถผัดฟ้องได้ทั้งหมด 5 ครั้ง ครั้งละ 6 วัน หลังจากนี้เมื่อพนักงานอัยการทำสำนวนแล้วเสร็จจะส่งฟ้องต่อศาลแขวงเชียงใหม่ตามขั้นตอน และ จนถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าพนักงานอัยการจะใช้ดุลพินิจสั่งคดีอย่างไร แต่โดยปกติแล้วข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจะถูกสั่งฟ้องทุกคดีและจะมีการผลักดันกลับประเทศต้นทางตามกฏหมาย แต่กรณีนี้ถือว่ามีปัจจัยสุ่มเสี่ยง หากถูกส่งกลับอาจไม่ปลอดภัย จึงเชื่อว่าจะไม่มีคำสั่งผลักดันกลับอย่างแน่นอน
นางสาวปสุตา บอกด้วยว่า องค์กรระหว่างประเทศให้ความสำคัญและมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้กันบ้างแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนในทางคดี ทีมทนายความจะให้การช่วยเหลือตามกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างเต็มที่ และ ช่วยเหลือให้ผู้ต้องเพื่อให้ความร่วมมือในกระบวนการยุติธรรม ส่วนเรื่องการลี้ภัยเป็นเรื่องอนาคตหลังจากนี้