ล้อมจับมือฆ่าสาวทิ้งป่ากก ที่แท้ฝีมือกิ๊กหนุ่ม ผัวสุดช้ำ รู้เมียมีชู้ ซ้ำถูกชู้ฆ่า
ที่แท้ฝีมือกิ๊ก ตำรวจล้อมจับหนุ่มวัย 30 ปี มือฆ่าสาวลูก 2 มีสามีแล้ว ทิ้งป่ากก สารภาพปมแค้น รู้ว่าแอบไปคบหากับผู้ชายใหม่
จากกรณี น.ส.มนชญา หรือ ฝ้าย อายุ 27 ปี ถูกฆ่าหมกศพทิ้งไว้ในป่ากก บริเวณริมคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก บ้านหนองจิกรี หมู่ 8 ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยพบศพเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งปมประเด็นเรื่องชู้สาวและถูกลวงมาฆ่า โดยมีการนำตัว นายศุภชัย อายุ 35 ปี สามีของผู้ตาย ไปตรวจร่างกาย พร้อมกับมีการสอบปากคำตลอดทั้งคืน จนในที่สุดนายศุภชัยยอมให้การเปิดเผยข้อมูลบางอย่างกับตำรวจ ถึงบุคคลต้องสงสัยที่เป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน
ความคืบหน่าล่าสุด วานนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.สุทธินันธ์ คงแช่มดี ผกก.ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.นครสวรรค์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนในสังกัด ได้มีการไปปิดล้อมบ้านของ นายสมภพ หรือ กั้ง อายุ 30 ปี อาชีพช่างไฟ หลังพบแนวทางการสอบสวนมีการสาวตัวไปถึงนายสมภพ ว่าเป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.มนชญา ด้วยสาเหตุปมแค้นมาจากความหึงหวง
โดยการปิดล้อมบ้านของนายสมภพนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการให้ญาติและคนในบ้านเจรจาเข้าเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะนายสมภพเกิดไหวตัวเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในห้องนอน และปิดประตูล็อกเอาไว้ โดยมีอาวุธปืนลูกซองพกติดตัวเอาไว้อยู่ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง มีการเตรียมใช้วิธีโยนแก๊สน้ำตาเข้าไปในห้อง เพื่อบีบให้นายสมภพออกมา แต่ได้มี นายธันวา ญาติของนายสมภพ ซึ่งขับรถยนต์เดินทางจากกรุงเทพฯ เพื่อมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้หลานยอมมอบตัว ปรากฏว่านายสมภพได้บอกขอเวลาอาบน้ำเพียงชั่วครู่ แล้วจึงยอมออกมามอบตัวแต่โดยดี
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ ทางเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายสมภพกับ น.ส.มนชญา ผู้ตาย ได้แอบคบหาในแบบชู้สาวกับแบบลับๆ มานาน ซึ่งทางฝ่ายสามีของผู้ตายก็ทราบเรื่องนี้ด้วย แต่ก็ปล่อยให้นายสมภพแอบคบหากับภรรยาของตนเอง โดยนายสมภพได้ส่งเสียเลี้ยงดู น.ส.มนชญา มาโดยตลอด
จนกระทั่งมารู้ว่าผู้ตายเริ่มปันใจแอบไปคบหากับผู้ชายใหม่อีกคน จึงทำให้เกิดความหึงหวงถึงขั้นที่นายสมภพเคยบุกไปทำร้ายร่างกายผู้ตายมาจนได้รับบาดเจ็บแล้วครั้งหนึ่ง ผ่านมาเพียงไม่กี่วัน นายสมภพจึงตัดสินใจลวง น.ส.มนชญา ออกมาลวงฆ่าทิ้งที่ป่ากก
ซึ่งเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่มีพยานปากเอก คือ นายอึ่ง (นามสมมุติ) เพื่อนสนิทของนายสมภพ เป็นผู้ให้ปากคำ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่รู้เห็นเหตุการณ์ แต่นายสมภพได้โทรศัพท์มาขอให้ให้ขับรถยนต์มารับในจุดที่พบศพ น.ส.มนชญา โดยกำชับว่า ให้ขับรถมองหน้ามองหลังระวังอย่าให้ใครตาม
ซึ่งเจ้าตัวก็ยังสงสัยว่าทำไมต้องให้ระวัง แต่ก็ไม่ได้ถาม และได้ขับรถไปรับเพื่อนรักตามที่ร้องขอ และเมื่อขับออกจากจุดเกิดเหตุมาจนถึงทางแยก จู่ๆ นายสมภพก็เปิดประตูรถวิ่งหายไปหน้าตาเฉย จนกระทั่งมาทราบอีกทีว่า มีการพบศพ น.ส.มนชญา ถูกฆ่าตายใกล้กับจุดที่ขับรถไปรับนายสมภพ
โดยทางเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด สามารถจับภาพได้ว่าในวันเกิดเหตุรถของนายอึ่งได้ขับออกมาจากจุดที่พบศพ จึงมีการเชิญตัวนายอึ่งมาสอบปากคำจนนำไปสู่การคลี่คลายคดีในที่สุด
เบื้องต้น นายสมภพได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลวง น.ส.มนชญา ออกมาฆ่าทิ้ง แล้วนำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่เอาไปทิ้งลงคลองชลประทานชัยนาท-ป่าสัก ซึ่งห่างจากจุดทิ้งศพไปประมาณ 500 เมตร
จึงได้มีการประสานให้ทีมหน่วยบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิการกุศลตาคลี มาช่วยงมหารถจนพบ และพบว่ารถถูกทิ้งคลองในสภาพที่มีกุญแจคาอยู่ จึงมีการนำของกลางที่ได้ไปไว้โรงพักก่อนจะมีการควบคุมตัวนายสมภพไปสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อมาสรุปสำนวนคดีต่อไป
ด้าน นายศุภชัยสามีของ น.ส.มนชญา ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า รู้ตั้งแต่แรกน่าจะเป็นฝีมือของนายสมภพ จึงมีการให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ เนื่องจากก่อนหน้านี้ภรรยาถูกนายสมภพทำร้ายร่างกายจนหน้าบวมปูด หนำซ้ำนายสมภพยังมาพูดจาหยามใจ บอกว่าส่งเมียคืนให้แล้ว และอย่าให้ผู้ตายมายุ่งกับเขาอีก ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย จนกระทั่งมาพบว่าภรรยาถูกฆ่าตายจริง
“ผมเจ็บปวดกับเรื่องนี้อย่างมาก เพราะนอกจากจะรู้ว่าภรรยามีชู้กับนายสมภพมานาน ยังมาถูกชายชู้ฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ ผมก็แค้นมากนะ เพราะนายสมภพลงมือทำร้ายภรรยาจนเจ็บหนัก แต่กลายเป็นว่าภรรยาไม่เอาเรื่อง จึงทำให้ผมทำอะไรไม่ได้ เพราะผมรักภรรยาของผม ถึงแม้เขาจะมีใคร แต่ถ้าเขาสั่งว่าไม่ ผมก็ไม่กล้าทำ เพราะผมรักและยอมเขาทุกอย่าง” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย เผยต่อว่า อยู่กินกับ น.ส.มนชญา มานานจนมีบุตรด้วยกัน 2 คน ซึ่งก่อนที่ น.ส.มนชญา จะเสียชีวิตเพียงไม่กี่วัน ก็เพิ่งจะมีการจัดงานเผาศพบุตรสาวคนเล็กวัยสองขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุเดินตกร่องท่อระบายน้ำทิ้งบริเวณหน้าบ้าน จนทำให้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรามานานนับปี กระทั่งมาเสียชีวิตก่อนหน้ามารดาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น