คำสารภาพ กิ๊กหนุ่มลวงสาวฆ่าหมกป่า อ้างรักมากตัดใจไม่ได้ เธอปันใจคบผู้ชายคนที่ 3

คำสารภาพ กิ๊กหนุ่มลวงสาวฆ่าหมกป่า อ้างรักมากตัดใจไม่ได้ เธอปันใจคบผู้ชายคนที่ 3

คำสารภาพ กิ๊กหนุ่มลวงสาวฆ่าหมกป่า อ้างรักมากตัดใจไม่ได้ เธอปันใจคบผู้ชายคนที่ 3
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ยกพลปิดล้อมบ้านพักเพื่อจับกุมตัว นายสมภพ อายุ 30 ปี หลังสืบทราบและพบว่า เจ้าตัวเป็นผู้ลงมือฆ่า น.ส.มนชญา อายุ 27 ปี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีปมชนวนสาเหตุมาจากความหึงหวง จนกลายเป็นเหตุการณ์โศกนาฏกรรมรักสี่เส้า ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้เจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง

จนในที่สุด นายสมภพยอมออกมามอบตัว พร้อมกับเปิดปากให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลวงให้ น.ส.มนชญา ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหาก่อนจะลงมือฆ่าทิ้งป่ากกจริง แล้วจึงน้ำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งในคลองชลประทาน ห่างจากจุดพบศพไปประมาณ 500 เมตร จึงได้มีการให้หน่วยกู้ภัยงมค้นหารถจนเจอ แล้วจึงเคลื่อนย้ายมาตรวจสอบยังโรงพัก พร้อมกับคุมตัวนายสมภพมาสอบปากคำเพื่อหาปมความแค้นขีดสุด จนถึงขนาดต้องลงมือฆ่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ได้มีการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของ น.ส.มนชญา ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 4772 ชัยนาท ที่กู้ขึ้นมาจากคลองชลประทาน พบว่า ภายในช่องเก็บของใต้เบาะรถ มีกระเป๋าสะพายของผู้ตาย ถึงได้เปิดออกมาตรวจสอบ แล้วก็พบว่า ภายในกระเป๋า มีอุปกรณ์เสพยาเสพติดอยู่เป็นจำนวนมาก มีทั้งหลอดดูดยาบ้า ฟอยล์บุหรี่ ไฟแช็ก รวมถึงเข็มฉีดยา 

ส่วนการสอบปากคำนายสมภพมือฆ่า น.ส.มนชญา เจ้าตัวเปิดปากยอมให้การรับสารภาพว่า รู้สึกหึงหวงและแค้น ที่ผู้ตายได้ปันใจให้กับชายหนุ่มอีกคน ทั้งที่ น.ส.มนชญา ก็มีสามีเป็นตัวเป็นตน และแอบคบหากับนายสมภพ เป็นกิ๊กแบบลับๆ อยู่แล้ว ยังจะมีชายคนอื่นมาเพิ่มอีกคน จึงทำให้ก่อนหน้านี้ เคยลวงผู้ตายมาลงมือทำร้ายร่างกายด้วยความแค้น พร้อมกับกับไล่ให้ออกจากชีวิต ไม่ต้องมายุ่งกันอีก แต่สุดท้าย กลายเป็นว่า นายสมภพยังคงตัดใจจาก น.ส.มนชญา ไม่ได้ จึงได้พยายามติดต่อเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ กลับกลายเป็นว่า น.ส.มนชญา มีปฏิกิริยาเริ่มตีตัวออกห่าง จนทำให้เกิดความแค้นปะทุเดือดอีกครั้ง จึงตัดสินใจติดต่อไปหาผู้ตายอีกครั้ง เพื่อขอพูดคุยเคลียร์ปัญหา โดยขอให้ น.ส.มนชญา ใช้กลอุบายหลอกสามี เพื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ออกมาหายังจุดนัดพบ บริเวณริมถนนเลียบคลองชลประทาน 

ในระหว่างพูดคุยเคลียร์ปัญหา น.ส.มนชญา ได้ขอยุติความสัมพันธ์กับนายสมภพอย่างจริงจัง จึงทำให้นายสมภพเก็บอารมณ์ไม่อยู่ เข้าไปซ้อมและชกกิ๊กสาวจนน็อคลงไปนอนกองอยู่กับพื้น และเมื่อ น.ส.มนชญา ฟื้นสติขึ้นมาอีกรอบ ก็ได้มีการยกมือไหว้ขอโทษนายสมภพ และขอให้จากกันแต่โดยดี ซึ่งหลังจากสิ้นคำขอสุดท้าย ปรากฏว่า นายสมภพทำใจไม่ได้ และแค้นที่เคยส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี แต่สุดท้ายยังมาถูกตีจาก จึงตัดสินใจไปคว้าท่อนไม้ที่ตกอยู่ข้างทางเอามาตีใส่ใบหน้ากิ๊กสาวอย่างรุนแรงไป 2-3 ครั้ง จน น.ส.มนชญา สิ้นใจตายคาที่ก่อนจะรีบใช้ผ้าขนหนูเอามามัดคอผู้ตาย เพื่อทำเป็นเชือกลากศพเอาไปทิ้งหมกภายในป่ากก แล้วจึงเอากระเป๋าสะพายของ น.ส.มนชญา ยัดใส่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ขับขี่เอารถไปทิ้งลงคลองอีกจุด เพื่ออำพราง โดยหวังให้ตำรวจพุ่งประเด็นไปทางฆ่าชิงทรัพย์ แต่ก็สุดท้ายก็ไม่รอดฝีมือการสืบสวนของตำรวจ

ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางร้อยเวรเจ้าของคดี ได้มีการนำตัวนายสมภพไปส่งฟ้องศาลจังหวัดนครสวรรค์ ในคดีครอบครองอาวุธปืนของผู้ต้องหาก่อน พร้อมกับอายัดการประกันตัว เพื่อคุมตัวไว้สอบปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม เนื่องจากขณะนี้ ยังต้องรอการสอบปากคำทั้งนายสมภพ และพยานรายอื่นๆ อีกหลายปาก อีกทั้งยังต้องทำการค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติม โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ที่นายสมภพให้การว่าเอาไปโยนทิ้งน้ำในจุดเดียวกับที่ทิ้งรถจักรยานยนต์ ซึ่งในส่วนของโทรศัพท์ของผู้ตาย ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการนำข้อมูลการติดต่อพูดคุย เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการทำสำนวนประกอบคดีให้แน่นหนา ก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป 

ซึ่งล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันเดียวกันนี้ ทางทีมนักประดาน้ำของเจ้าหน้าที่อาสาบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิการกุศลตาคลี ได้ลงพื้นที่ค้นหาวัตถุพยานเพิ่มเติมในจุดที่นายสมภพนำรถจักรยานยนต์ของ น.ส.มนชญา ไปทิ้งคลองน้ำ ปรากฏว่า พบหลักฐานเพิ่มเติมเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้ตายในสภาพถูกไฟเผาเหลือแต่ซาก และเศษซากของฟอยล์ห่อบุหรี่ที่ถูกไฟเผา รวมถึงยังพบเสื้อคอปกแขนยาวเปลื้อนเลือด สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาที่ใส่ในวันก่อเหตุอีกด้วย จึงได้นำวัตถุพยานดังกล่าวส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรวบรวมหลักฐานต่อไป 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook