อึ้ง! รถตู้ 2 คัน อัดกันมา 42 คน ขนแรงงานต่างด้าวลักลอบข้ามแดนมุ่งไป กทม.
สกัดจับแรงงานต่างด้าว 42 คน นั่งอัดกันมาบนรถตู้ 2 คัน ลักลอบข้ามแดนจากแม่สาย ส่งต่อเป็นทอดๆ มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (22 พ.ค.) นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากุล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ กอ.รมน. ฝ่ายปกครอง และทหาร แถลงข่าวการจับกุมผู้นำพาและแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ที่ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย
โดยการจับกุมมีขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมีขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งที่ภาคกลาง จึงได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่มขบวนการมาโดยตลอด จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ตู้ 2 คัน เข้ามาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง ที่หมู่ 1 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ นายปรีชา อายุ 56 ปี
จากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน 7194 เชียงราย ของนายปรีชา ขับนำรถตู้ทั้ง 2 คันออกจากบ้านหลังดังกล่าว ได้ประมาณ 3 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าสกัดรถเอาไว้
จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ตู้พบมีแรงงานชาวเมียนมาอยู่ภายในอยู่คันละ 21 คน รวมทั้งหมด 42 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 26 คน จึงได้จับกุมตัวทั้งหมดพร้อมคนขับรถคันหน้า คือ นายหล้า อายุ 47 ปี ส่วนคนขับรถตู้คันที่ 2 คือ นายวิชัย อายุ 49 ปี หลังจากการสกัดจับกุมแล้ว ได้นำทั้งหมดมาที่ สภ.แม่จัน เพื่อสอบปากคำ
เบื้องต้น คนขับสารภาพว่าเป็นเพียงคนรับจ้าง โดยได้รับค่าจ้างให้ขับไปส่งระยะสั้น คนละ 5,000 บาท เพื่อนำไปส่งพื้นที่ จ.พะเยา โดยเลี่ยงด่านตรวจแม่จัน
ผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้จะมีการขยายผลและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกฎหมายทุกฉบับ ทั้งเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง การฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ การนำพาคนหลบหนีเข้าเมือง เรื่องการค้ามนุษย์ซึ่งทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะมาดูในเรื่องนี้ด้วย
สำหรับการสกัดกั้นได้ครั้งนี้เกิดจากการประสานงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหารภายใต้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย
ด้าน พ.ต.อ.มานพ เสนากูล กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าคนกลุ่มนี้ได้ลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยทางช่องทางที่ผิดกฎหมายและไปพักที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จากนั้นได้ย้ายไปพักต่อที่บ้าน ต.สันทราย ก่อนจะไปพักที่ จ.พะเยา แล้วจะมีการขนกันเป็นทอดๆ ไปสู่ภาคกลางต่อไป
สำหรับการดำเนินการนั้นจะมีการนำทั้งหมดไปควบคุมที่ร้อย ตชด.327อ.แม่จัน เพื่อทำการตรวจโรคเบื้องต้นว่าติดเชื้อไวรัส โควิด - 19 หรือไม่ และจะกักตัว 14 วันก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป
จากการสอบปากคำ หนึ่งในชาวต่างด้าว ทราบว่า ได้เดินข้ามลำน้ำสายที่มีความลึกประมาณอก แต่ไม่ทราบว่าเป็นจุดไหน ก่อนจะเดินเท้าอีกประมาณ 30 นาที จึงมีรถยนต์ตู้สภาพเก่า ไปรับเพื่อไปพักที่บ้านน้ำจำ ก่อนจะมีรถมารับแล้วมาพักต่อที่ อ.แม่จัน และถูกจับกุมในที่สุด
โดยมีชายเมียนมาคนหนึ่งในกลุ่มเป็นคนนำพาทั้งหมดมา ซึ่งชายคนดังกล่าวเคยพาชาวเมียนมากลุ่มหนึ่งไปส่งที่กรุงเทพฯ มาแล้ว 1 ครั้ง ได้เงินค่าจ้าง 10,000 บาท ครั้งนี้ได้กลับมารับทั้งหมดไปอีกครั้ง