ครม.อนุมัติงบกลาง 311 ล้านบาท แก้โควิดในเรือนจำ สร้าง รพ.สนาม 12 แห่ง

ครม.อนุมัติงบกลาง 311 ล้านบาท แก้โควิดในเรือนจำ สร้าง รพ.สนาม 12 แห่ง

ครม.อนุมัติงบกลาง 311 ล้านบาท แก้โควิดในเรือนจำ สร้าง รพ.สนาม 12 แห่ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณจากงบกลาง แก้โควิดในเรือนจำ 311 ล้านบาท ซื้อชุดตรวจเพิ่ม 1 แสนชุด สร้าง รพ.สนามรองรับ 12 แห่ง ก่อสร้างและปรับปรุงห้องกักโรค 65 แห่ง และซื้ออุปกรณ์ป้องกันโรค นอกจากนี้ยังอนุมัติให้สิทธิหลักประกันสุขภาพแก่ผู้ต้องขังที่มีปัญหาสถานะบุคคลกว่า 16,000 คน

ในการประชุมคระรัญมนตรีเมื่อวันที่ 25 พ.ค. คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้มีการอนุมัติงบประมาณรายการค่าใช้จ่ายในการแก้ไขป้องกันโรคโควิด ภายในเรือนจำ จากงบกลางรายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทาแก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นจำนวน 311,650,300 บาท สำหรับการคุมควบการระบาดภายในเรือนจำทั่วประเทศ

ภายในกรอบวงเงิน 311,650,300 บาท นี้ ครม. ลงมติให้เป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขและป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย

1) ค่าชุดตรวจเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) แบบ RT PCR จำนวน 100,000 ชุด เป็นเงิน 80,000,000 บาท

2) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามรองรับผู้ป่วยวิกฤตในเขตกรุงเทพและปริมณฑล จำนวน 2 แห่ง เป็นเงิน 51,967,200 บาท

3) ค่าก่อสร้างโรงพยาบาลสนามประจำเขตกลุ่มเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 10 แห่ง เป็นเงิน 92,680,000 บาท

4) ค่าก่อสร้างและปรับปรุงห้องกักกันโรคประจำเรือนจำและทัณฑสถาน จำนวน 65 แห่ง เป็นเงิน 49,835,500 บาท

5) ค่าวัสดุ อุปกรณ์ป้องกันโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเรือนจำและทัณฑสถาน เป็นเงิน 37,167,600 บาท

ทั้งนี้ การจัดหายาฟาวิพิราเวียร์สำหรับผู้ติดเชื้อนั้น ขอให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติ โดยขอรับการสนับสนุนยาดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุขโดยตรงและเร่งด่วน รวมทั้งเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเท่าที่จำเป็นอย่างเหมาะสม เพื่อทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติว่าด้วย ข้อเสนอเชิงนโยบายในการจัดระบบบริการและระบบประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาสถานะบุคคลและต่างด้าวในเรือนจำ โดยอนุมัติหลักการให้จัดระบบหลักประกันสุขภาพ สำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาทางสถานะบุคคลและต่างด้าว จำนวน 16,000 คน [จำนวนกลุ่มผู้ต้องขังดังกล่าวมีจำนวนจริง 19,506 คน ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 3,506 คน ยังมีความคลาดเคลื่อนทางทะเบียน] โดยให้มีการลงทะเบียนเพื่อเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพ พร้อมกับเสนอให้มีงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเข้าถึงบริการสุขภาพตามชุดสิทธิประโยชน์ ในอัตราเทียบเท่ากับผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ปัจจุบันสิทธิในระบบดังกล่าวคิดค่าใช้จ่ายแบบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 3,719.23 บาทต่อผู้มีสิทธิ) ตามที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอ โดยให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นผู้จัดระบบดังกล่าวไปพลางก่อน

สำหรับงบประมาณในการดำเนินการ ค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 จำนวน 13.71 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีต่อ ๆ ไป ขอให้ สธ. ใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณ (เงินบำรุงโรงพยาบาล) เป็นลำดับแรกก่อน เพื่อช่วยลดภาระงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด หากไม่เพียงพอขอให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณไปดำเนินการ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

โดยให้ ยธ. เป็นหน่วยงานหลักหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการจัดระบบบริการและประกันสุขภาพสำหรับผู้ต้องขังที่มีปัญหาสถานะบุคคลและต่างด้าวในระยะยาวให้ได้ข้อยุติที่ชัดเจน และเป็นรูปธรรม และให้ ยธ.ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) กระทรวงมหาดไทย (มท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณากำหนดแนวทางในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้กระทำความผิดให้ถูกต้อง ชัดเจน รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาในกรณีที่ไม่สามารถยืนยันตัวตนของผู้กระทำความผิดได้ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook