ตั้งใจไปจูบหินบลาร์นีย์ บนเกาะไอร์แลนด์ หวังเพิ่มเสน่ห์คารมตามตำนาน
ไอร์แลนด์เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเกาะบริเตนใหญ่ในมหาสมุทรแอตแลนติกมีเนื้อที่ 84,421 ตารางกิโลเมตร ประชากรรวมทั้งเกาะประมาณ 10 ล้านคนและ พื้นที่ประมาณ 5 ใน 6 ส่วนของเกาะไอร์แลนด์เป็นที่ตั้งของประเทศไอร์แลนด์ ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีก 1 ใน 6 ส่วนด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ เป็นที่ตั้งของไอร์แลนด์เหนือของสหราชอาณาจักร
หินบลาร์นีย์เป็นแผ่นหินปูนประเภทหินตะกอนคาร์บอเนต เกิดจากการทับถมของตะกอนคาร์บอเนตในท้องทะเล ทั้งจากสารอนินทรีย์ และซากสิ่งมีชีวิต เช่น ปะการัง และกระดองของสัตว์ทะเล ซึ่งถับถมกันภายใต้ความกดดันและตกผลึกใหม่เป็นแร่แคลไซต์จึงทำปฏิกิริยากับกรด เนื้อแน่นละเอียดทึบ มีสีออกขาวเทาซึ่งเป็นหินที่มีอยู่ทั่วไปรอบ ๆ เมืองคอร์ก ที่ปราสาทบลาร์นีย์ตั้งอยู่
Three Lions / Getty Images
สำหรับท่านผู้อ่านรุ่นใหญ่ (แก่) ที่เคยอ่านหนังสือเรื่อง "วิธีชนะทุกข์ สร้างสุข" ของเดล คาร์เนกี อาจจะจำได้ว่าวิธีสร้างความสุขในครอบครัวที่ดีที่สุดจากคำแนะนำของหนังสือเล่มนี้ คือ
"ผู้ชายทุกคนควรที่จะไปจูบหินบลาร์นีย์ก่อนที่จะแต่งงานและสร้างครอบครัว"
แล้วเดล คาร์เนกีก็อธิบายว่าจากตำนานที่เล่าขานกันมาจนทุกวันนี้ว่าหินบลาร์นีย์ทรงความศักดิ์สิทธิ์หากใครได้จูบหินบลาร์นีย์แล้วก็จะได้รับพรวิเศษ คือกลายเป็นคนที่พูดจามีเสน่ห์มีคารมคมคายจะได้พูดจากับศรีภรรยาผู้เป็นคนสำคัญที่สุดของครอบครัวให้มีความสุขอันเป็นสาเหตุหลักของความสุขเจริญของครอบครัวนั่นเอง การพูดดี พูดแบบมีเสน่ห์มีคารมคมคายจะทำให้ผู้ที่พูดจาว่ากล่าวนั้นมีปากแบบบทอขยานที่เด็กสมัยก่อน (รุ่นผู้เขียน) ท่องได้แทบทุกคนคือ
"ปากเป็นเอกเหมือนเสกมนตร์ให้คนเชื่อ ฉลาดเหลือวาจาปรีชาฉาน
จะกล่าวถ้อยร้อยคำไม่รำคาญ เป็นรากฐานเทิดตนพ้นลำเค็ญฯ"
ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางไปที่ประเทศไอร์แลนด์ครั้งหนึ่งเพื่อไปเยือนมหาวิทยาลัยคอลเลจดับลิน (UCD) ก่อนที่โควิด-19 จะระบาดทั่วโลกนานทีเดียวซึ่งตัวมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในกรุงดับลินเมืองหลวงของไอร์แลนด์ซึ่งอยู่ตอนกลางทาง
ตะวันออกของเกาะไอร์แลนด์ส่วนหินบลาร์นีย์นั้นอยู่ใกล้กับเมืองคอร์กที่อยู่ทางใต้ส่วนปลายของเกาะไอร์แลนด์แบบว่าห่างไกลกันลิบลับ แต่ผู้เขียนก็ตะเกียกตะกายไปให้ได้ด้วยตัวเองแบบว่าอยากปากดีว่ายังงั้นเถอะ
แต่อย่าให้เล่าเลยว่าผู้เขียนไปถึงเมืองคอร์กได้อย่างไรเพราะเรื่องมันยาวแบบเศร้าๆ ไม่มีสาระอะไรน่าสนใจเอาเป็นว่าผู้เขียนมาถึงปราสาทบลาร์นีย์ ที่สร้างขึ้นโดย ขุนนางไอริชชื่อคอร์แม็ค แม็คคาร์ธี ร่วม 600 ปีที่แล้ว โดยสิ่งที่ดึงดูดใจให้คนมาที่นี่คือหินบลาร์นีย์ ที่เป็นหินศักดิ์สิทธิ์ในตำนานบนยอดปราสาท กล่าวกันว่า การได้จุมพิตผนังหินที่นี่จะทำให้คนที่จูบไม่อับจนโวหาร
บุคคลสำคัญหลายคน อาทิ เซอร์ วอลเตอร์ สก็อต ตลอดไปจนถึงประธานาธิบดีอเมริกาและผู้นำโลกหลายคน รวมถึงนักแสดงชื่อก้องโลก เคยมามาเยือนผนังหินแห่งนี้มาแล้วทั้งนั้น ที่ว่าเคยมาเยือนนั้นไม่ทุกคนหรอกครับที่จะกล้าจูบหินบลาร์นีย์เนื่องจากหินบลาร์นีย์เป็นแผ่นหินแผ่นหนึ่งยาว 2 เมตรกว้างครึ่งเมตร ตั้งอยู่เสา 2 เสาห่างจากยอดปราสาทซึ่งสูงขนาดตึก 4 ชั้นประมาณครึ่งเมตร
ดังนั้นจึงต้องมีผู้ช่วยคนหนึ่ง(ตัวใหญ่หน่อย)ในการที่จะจูบหินบลาร์นีย์ด้วยการนั่งข้างๆ คนที่จะจูบหินบลาร์นีย์ผู้ต้องนอนหงายเอามือจับราวเหล็กแล้วหลับหูหลับตาเสือกตัวออกไปเพื่อจูบหินบลาร์นีย์ ซึ่งคนดีๆ เขาไม่ทำกันหรอกครับ มีแต่คนบ้าเท่านั้น บังเอิญคนบ้ามีเยอะพอสมควร (รวมทั้งผู้เขียนด้วย) และครั้นผู้เขียนได้จูบหิน บลาร์นีย์แล้วก็ไม่เห็นจะมีปากเสน่ห์ขึ้นมาแต่ประการใด