ตามล่า "ปลิงควาย" ตากแห้งขายสู้ภัยโควิด อาชีพแปลกแต่รวย รายได้เดือนละแสน
อาชีพแปลก ล่าปลิงดูดเลือดตากแห้งขายสู้ภัยโควิด หน้าฝนยิ่งเยอะ โกยรายได้เดือนละแสน
(31 พ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิดระบาด ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยว รวมถึงผู้ประกอบการหลากหลายอาชีพที่ได้รับผลกระทบ บางรายถึงขั้นตกงาน ขาดรายได้ แต่สำหรับ ชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือว่ามีอาชีพแปลกที่สามารถสู้วิกฤติโควิดได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอาชีพแปลกตามฤดูกาลตลอดปี คือในช่วงฤดูหนาวจะมีการจับไส้เดือนตากแห้งขาย ในช่วงฤดูร้อนจะเป็นอาชีพจับตุ๊กแกแปรรูปขายไปจีน ส่วนฤดูฝนจะมีอาชีพล่าปลิงตากแห้งขาย สร้างรายได้หมุนเวียนสะพัด ปีละหลาย 10 ล้านบาท บางรายขยันสามารถสร้างรายได้ เดือนละนับแสนบาท
เช่นเดียวกับ ชาวบ้าน ในพื้นที่ บ้านดอนแดง ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม นับเป็นอีกหมู่บ้านอาชีพแปลก ในช่วงฤดูฝน จะมีอาชีพ ตระเวนล่าปลิง ตามหนองน้ำต่างๆ รวมถึงทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร สกลนคร ที่เป็นแหล่งชุกชุมของปลิง ยิ่งถ้าปลิงตัวไหนดูดเลือดควายมากๆ จะตัวใหญ่ บางตัวน้ำหนักตัวละ 2 -3 ขีด สามารถนำมาแปรรูปตากแห้งได้น้ำหนักดี ส่งขายให้พ่อค้าคนกลาง ที่มารับซื้อส่งต่อไปขายที่ประเทศจีน มีราคาซื้อขายตกกิโลกรัมละ 1,000 - 1,500 บาท ส่วนออเดอร์รับไม่อั้น ถึงแม้จะเจอพิษเศรษฐกิจจากโควิดระบาด แต่สำหรับชาวบ้าน ในพื้นที่ ยังไม่มีคำว่าตกงาน เพราะยังมีอาชีพแปลกเสริมนอกจากการทำการเกษตร บางรายสร้างรายได้วันละ 4,000 – 5,000 บาท ยิ่งช่วงฝนตกชุกถือเป็นโอกาสทองที่จะทำเงินสร้างรายได้ เดือนละนับแสนบาท
นายไพฑูรย์ ท้าวนาง อายุ 43 ปี ชาวบ้านดอนแดง หมู่ 5 ต.บ้านเสียง อ.นาหว้า จ.นครพนม เปิดเผยถึงเส้นทางอาชีพล่าปลิงว่า สำหรับชาวบ้าน ดอนแดง ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า จ.นครพนม ถือเป็นหนึ่งในหมู่บ้านอาชีพแปลก ที่มีอาชีพล่าปลิง ไส้เดือน ตากแห้งขายส่งไปประเทศจีน ทำมานานกว่า 10-20 ปี โดยจะทำอาชีพแปลกตามฤดูกาล ส่วนในช่วงฤดูฝนจะเป็นโอกาสทองของชาวบ้าน ออกล่าปลิงดูดเลือด หรือชาวบ้านเรียกว่าปลิงควาย เพราะส่วนใหญ่ปลิงจะดูดเลือดควายที่ลงไปตามหนองน้ำ ส่วนเทคนิคการหาใช้อุปกรณ์แค่อย่างเดียว คือสวิง ซึ่งจะออกไปล่าปลิง ไปหาตามหนองน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีผักตบชวา มีพงหญ้ารก ตามริมหนองน้ำ ริมบึง จะเป็นที่อาศัยของปลิงจำนวนมาก โดยเฉพาะริมหนองหาร จ.สกลนคร ถือว่าเป็นแหล่งที่ปลิงชุกชุมมากที่สุด รวมถึงพื้นที่หนองน้ำที่มีควายลงไปหากินจำนวนมาก
ส่วนวิธีการหา จะใช้เท้ากวนแหวกตามพงหญ้าในริมน้ำ ซึ่งเป็นความชำนาญแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เพราะธรรมชาติของปลิง เมื่อมีการเคลื่อนไหวในน้ำ จะคิดว่าเป็นสัตว์ที่ดูดเลือดกินได้ ทำให้จะลอยออกมา จากนั้นใช้สวิงตัก นำใส่คุถังที่เตรียมไป บางวันช่วงฝนตกจะหาได้เยอะประมาณวันละ 4-5 กิโลกรัม มีหลากหลายขนาด บางตัวหนัก 2 -3 ขีด
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า หลังจากจับปลิงมาได้จะนำมาขาย 3 รูปแบบ คือ ขายสด ราคากิโลกรัมละ ประมาณ 400-500 บาท นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปอีก 2 แบบ คือ แบบเอาเลือดในตัวปลิง กิโลกรัมละประมาณ 1,000 บาท ส่วนแบบรีดเลือดออกจากตัวปลิง จะประมาณกิโลกรัมละ 1,500 – 2,000 บาท สำหรับปลิงสดน้ำหนักประมาณ 2-3 กิโลกรัม จะได้ปลิงแห้งประมาณ 1 กิโลกรัม แต่ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะเลือก ขายแบบแปรรูปตากแห้งแบบมีเลือด เพราะทำง่ายสะดวกในการขาย โดยจะนำมาน็อกให้ปลิงควายตายด้วยยาสูบยาเส้น จากนั้นนำไปต้มน้ำเดือด ประมาณ 10 นาที ให้สุกก่อนที่จะนำไปตากแห้งด้วยแดดธรรมชาติ ประมาณ 1 วัน หรือ รมควันย่างไฟ ไม่ให้เกิดความชื้น เพื่อนำไปบรรจุถุงส่งไปขาย ให้พ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ ปลายทางคือส่งไปประเทศจีน
จากการสอบถาม พ่อค้า ให้ข้อมูลว่า จะนำไปปรุงเป็นยาสมุนไพรรักษาเกี่ยวกับโรคเลือด รวมถึงสกัดน้ำมันนวดแก้ปวดเมื่อย รวมถึงเป็นยาชูกำลังตามความเชื่อของชาวจีน รับออเดอร์ไม่อั้น แต่ปีไหนฝนน้อย จะหาปลิงยาก ซึ่งถือว่าเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ดีช่วงโควิดระบาด มีงานทำไม่ตกงาน หลังว่างเว้นทำการเกษตรทำนา บางครอบครัวมีความชำนาญ มีความสามารถ สร้างรายได้เดือนละเป็นแสนในช่วงฤดูฝน