ด.ช.หม่องบวชสามเณรถวายเป็นพระราชกุศล
ด.ช.หม่องใช้ช่วงปิดเทอมบวชสามเณร 14 วัน แทนคุณแผ่นดินไทย พร้อมถวายเป็นพระราชกุศลขอในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ประชาชนลงนามถวายพระพรในหลวงเนืองแน่รพ.ศิริราช
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ต.ค. 2552 ด.ช.หม่อง ทองดี อายุ 12 ปี แชมป์ประเภททีม และรางวัลที่ 3 ประเภทบุคคลจากการแข่งขันเครื่องบินพับกระดาษ นานาชาติที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าพิธีบรรพชาพร้อมกับเพื่อนร่วมโรงเรียนบ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และญาติซึ่งเดินทางมาจาก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ รวม 10 คน ที่วัดป่าแดงมหาวิหาร ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ โดยมีพระครูโฆสิตปริยัติยา ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดป่าแดงมหาวิหาร และเป็นเจ้าคณะตำบลสุเทพ เป็นพระอุปัชฌาย์ โดยการบรรพชาที่มีขึ้นทางวัดได้ประกอบพิธีแบบอุกาสะหรือการบรรพชาหมู่แบบ ล้านนาโบราณที่มีความเรียบง่าย
พิธีบรรพชาครั้งนี้ นอกจากจะมีนายยุ้น และนางมอย ทองดี บิดาและ มารดาชอง ด.ช.หม่อง เป็นเจ้าภาพร่วมกับโรงเรียนบ้านห้วยทรายแล้ว นายอุทิศ สิทธิประภา โฟร์แมนควบคุมงานก่อสร้างบริษัท วรพงษ์ อินเจียเนียริ่ง จำกัด นายจ้างของนายยุ้นยังเดินทางมาร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งญาติญาติชาวไทยใหญ่จาก อ.ฝาง อ.เชียงดาว อ.แม่ริม อ.สันทราย และที่ทำงานในตัวเมืองเชียงใหม่ เข้าร่วมงานอีกว่า 100 คน
นายยุ้น กล่าวว่า การบวชครั้งนี้ลูกชายตั้งใจบวชเพื่อทดแทนคุณให้กับ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ รวมทั้งเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินไทยและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ทรงหายจากพระอาการประชวรและมี สุขภาพแข็งแรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยสืบไป ซึ่งครอบครัวรู้สึกปลื้มใจที่มีโอากา สได้ทำดีถวายในหลวงในครั้งนี้
นายดวงฤทธิ์ เกติมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยทราย กล่าวว่า การบวชเณรครั้งนี้มีเพื่อนร่วมโรงเรียนที่เป็นเด็กไร้สัญชาติบวชพร้อมกันรวม 6 คน ส่วนอีก 4 คนเป็นเด็กไทย โดยจะใช้เวลาทั้งหมด 14 วัน และในเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ต.ค. จะมีพิธีลาสิกขาก่อนจะเปิดเทอมและเข้าเรียนตามปกติในวันที่ 1 พ.ย.
สำหรับปัจจัยในการบวชครั้งนี้รวมทั้งหมด 22,200 บาท เป็นค่าชุดผ้า ไตรจำนวน 9 ชุด ชุดละ 800 บาท ค่าภัตตาหารเช้าและเพลและน้ำปานะวันละ 1,000 บาท โดยโรงเรียนบ้านห้วยทรายเป็นเจ้าภาพให้การสนับสนุนร่วมกับมูลนิธิแม่ชีศันสนีย์
ประชาชนลงนามถวายพระพรในหลวงเนืองแน่รพ.ศิริราช
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อาคารศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช วันที่ 18 ต.ค. ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จฯ ประทับครบ 1 เดือนเต็ม หลังจากที่เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ตลอดทั้งวันประชาชนจากทั่วทุกสารทิศยังคงเดินทางมาลงนามถวายพระพรเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ โดยประชาชนส่วนใหญ่เดินทางมาลงนามถวายพระพรจะมากันเป็นครอบคัว พร้อมทั้งจุดธูปขอพรที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ให้ทรงคุ้มครอง " ในหลวง " ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญ และคณะบุคคลจากหน่วยงาน องค์กรต่างๆ มาร่วมลงนามด้วย อาทิ พล.ต.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำคณะนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้ารุ่น 12 หลักสูตรวิชาการเมืองการปกครอง คณะนักเรียนจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนท์ นักเรียนจากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดอนงคาราม เขตคลองสาน ชมรมจักรยานเพื่อนพ้องน้องพี่ จำนวน 15 คัน เดินทางมาจาก จ.ราชบุรี กลุ่มประชาคมผู้สูงอายุและสตรีอาสา
นายรัก วิชัย ชาวปาปากายอ จากอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ได้พาครอบครัวมาร่วมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมแสดงความรู้สึกปลื้มปิติ ที่ทราบถึงพระอาการที่ดีขึ้น และได้มาร่วมลงนามถวายพระพร ได้มากราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหายจากประอาการประชวรโดยเร็วด้วย
สำหรับในช่วงบ่าย ได้มีคณะนักเรียนจากศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์วัดสวนแก้ว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี พระฤาษีกิตติศักดิ์มากสาคร และพระครูบานครชัยเขมานันโท จากวัดเสมาคีรี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เดินทางมาพร้อมกับพระสงฆ์และแม่พราหมณ์ เพื่อร่วมลงนามถวายพระพรด้วย
พระฤาษีกิตติศักดิ์มากสาคร กล่าวว่า เดินทางมาถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และขอให้พระองค์ท่านหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ให้พระองค์ท่านทรงอยู่คู่บ้านคู่เมืองต่อไป และขอให้บุญบารมีทุกประการที่ฤาษีได้บำเพ็ญปฏิบัติมาตลอด 17 - 18 ปี ส่งให้ในหลวงหายจากพระประชวร
ต่อมาเวลา 14.00 น. สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สาขากรุงเทพฯ นำโดยนายเมตตา เกษเพชร ประธานสมาคม และตัวแทนผู้พิการทางสายตา เข้าร่วมลงนามถวายพระพร โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักพระราชวังลงชื่อให้
น.ส.นงนารถ อุ่นสุวรรณ อายุ 64 ปี พิการทางสายตาเมื่ออายุได้ 2 เดือน กล่าวว่า อยากมาลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ทราบข่าวพระองค์ทรงพระประชวร แต่เนื่องจากตาบอดจึงไม่มีโอกาส แต่วันนี้มาพร้อมกับสมาคม ซึ่งตนได้สวดมนต์ทุกคืนเพื่อให้พระองค์หายจากพระอาการประชวร แม้ตนเกิดมาจะไม่สามารถมองเห็นและไม่เคยเห็นในหลวง แต่ก็จินตนาการในใจว่าพระองค์ทรงมีใบหน้าที่ดี บุคลิกดี โดยจินตนาการมาจากน้ำเสียงของพระองค์ท่าน ซึ่งตนเคยเข้าเฝ้าสมัยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ พระราชดำเนินมาที่โรงเรียนสอนคนตาบอด และตนเคยเล่นละครต่อหน้าพระพักตร์ด้วย
เวลา 16.30 น. นางสุธาสินี น้อยอินทร์ หรือครูติ๋ว ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสุธาสินี น้อยอินทร์ เพื่อเด็กและเยาวชน นำเด็กที่อยู่ในความดูแลจากบ้านโฮมฮัก จ.ยโสธร มาร่วมลงนามถวายพระพร
นางสุธาสินี กล่าวว่า ตนได้พาเด็กๆ ที่อยู่ในความดูแล ซึ่งติดเชื้อเอชไอวี จากพ่อ-แม่ และเด็กกำพร้า มาร่วมลงนามถวายพระพร เพื่อแสดงความกตัญญูต่อพ่อหลวงของไทย ซึ่งพระองค์ท่านนอกจากจะเป็นพ่อของแผ่นดินแล้ว ยังเป็นต้นแบบของการให้และแบ่งปัน ตนอยากให้เด็กได้มาเรียนรู้ และอยากขอเชิญชวนลูกๆ ในประเทศหยุดทะเลาะกันเอง ควรหันหน้าเข้าหากัน และรักกัน ร่วมกันแก้ปัญหา จะทำให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายไปได้