"โควิดตรัง" มาแรงแซงโค้ง คลัสเตอร์โรงงานถุงมือยางติดแล้ว 461 ราย เริ่มแพร่สู่ครอบครัว

"โควิดตรัง" มาแรงแซงโค้ง คลัสเตอร์โรงงานถุงมือยางติดแล้ว 461 ราย เริ่มแพร่สู่ครอบครัว

"โควิดตรัง" มาแรงแซงโค้ง คลัสเตอร์โรงงานถุงมือยางติดแล้ว 461 ราย เริ่มแพร่สู่ครอบครัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"โควิดตรัง" มาแรงแซงโค้ง คลัสเตอร์โรงงานถุงมือแพทย์ติดแล้ว 461 ราย กำลังลุกลามไปครอบครัวและโรงงานอื่นๆ 

(2 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์แถลงข่าวบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จ.ตรัง ห้องลิบง ชั้น 2 ศาลากลาง จ.ตรัง มีการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 จ.ตรัง นำโดย นายขจรศักดิ์ ผู้ว่าราชการ จ.ตรัง โดยกล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อในวันนี้จำนวน 176 ราย เป็นคลัสเตอร์ของโรงงานถุงมือยางทางการแพทย์บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) สาขาตรัง ทั้งหมด โดยมีการตรวจหาเชื้อ (SWAP) จากโพรงจมูกและคอไปแล้วทั้งหมด 1,625 ราย ผลตรวจออกมาแล้วจำนวน 1,505 ราย มีผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ของโรงงานไปแล้วกว่า 461 ราย แบ่งเป็นสัญชาติเมียนมา 160 คน สัญชาติไทย 301 คน เหลือผลตัวอย่างการตัวอีกจำนวน 120 คน ซึ่งคาดว่าจะออกมาทั้งหมดในวันที่ 3 มิ.ย. ส่วนการเปิดเรียนหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จำเป็นจะต้องเลื่อนเปิดเรียนไปก่อน และได้มีการเตรียมการขยาย รพ.สนามแห่งที่ 6 แล้วซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

นพ.บรรเจิด นายแพทย์ สสจ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับการแพร่กระจายของแรงงานโรงงานถุงมือไปสู่ครอบครัวและคนใกล้ชิด ซึ่งมีทั้งสัมผัสเสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูง ตอนนี้เริ่มมีที่ติดเชื้อแล้วอีกจำนวนหนึ่ง การคาดการณ์คือไม่รู้ว่าผู้ติดเชื้อรายแรกเกิดขึ้นเมื่อใด เพราะพนักงานจำนวนหนึ่งเดินทางกลับบ้าน โอกาสที่จะติดคนในครอบครัวจึงมีที่จะเกิดขึ้นได้ โดยได้เร่งทำการตรวจหาเชื้อและกักตัวคนใกล้ชิดแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ รพ.สิเกา ซึ่งได้มีผู้ป่วยสัญชาติเมียนมา ทำงานอยู่ในโรงงานแปรรูปไม้ยางพารา “นาเมืองเพชรพาราวู้ด” ไปแอดมิทที่โรงพยาบาลสิเกา เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยอาการมีไข้ เบื้องต้นแพทย์สงสัยว่าอาจจะป่วยเป็นไข้เลือดออก จนกระทั่งรักษาตัวอยู่จำนวน 3 วัน แต่ปรากฏว่าไข้ไม่ลดลง จึงทำการเอกซเรย์ปรากฏว่ามีปอดบวม จึงทำการตรวจหาเชื้อ ผลออกมาเป็นผลบวก ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ผู้ป่วยอื่นๆ ที่ร่วมห้อง 2. เจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทุกเวร 3.ญาติผู้ป่วยรวมถึงเตียงอื่นๆ

ทำให้เจ้าหน้าที่จำนวน 26 คน ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จำนวน 18 คน ยังไม่ฉีดเลย 2 คน ซึ่งทาง 2 คนดังกล่าวจะต้องกักตัว 14 วัน จึงต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์จำนวน 18 คน ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วดูแลผู้ป่วยที่เหลืออยู่ในวอร์ดดังกล่าว และได้นำผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยรายอื่นๆ มาทำการตรวจหาเชื้อหมดแล้ว ทำให้ต้องปิดวอร์ดดังกล่าวและหอผู้ป่วยในทั้งหมด เหลือไว้แค่เพียงห้องฉุกเฉิน ส่วนผู้ป่วยที่จะต้องแอดมิทก็จะส่งต่อไปยัง รพ.ข้างเคียง

ด้าน นายแพทย์ตุลกานต์ มักคุ้น นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ รพ.ตรัง กล่าวว่า มีกรณีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จาก โรงพยาบาลในพื้นที่ จ.สตูล เดินทางมาที่ รพ.ตรัง ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยติดเชื้อของ จ.สตูล ในขณะที่ถูกส่งมา รพ.ตรัง ผลการตรวจหาเชื้อโควิดยังไม่ออก ผู้ป่วยจึงได้รับการผ่าตัด และนอนในห้องไอซียู ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เมื่อผลการตรวจเชื้อโควิดออกมาแล้วทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยในห้องไอซียูต้องได้รับการกักตัว และทำการตรวจหาเชื้อ แบ่งเป็นพยาบาลจำนวน 19 คน เมื่อผลออกแล้วถ้าเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบก็จะกลับมาทำงานได้ แต่ในขณะนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วยทั้งหมดก็ได้ให้พยาบาลเหล่านี้กักตัวไว้ก่อนจนกว่าจะทราบผล และในขณะนี้ยังคงรอผลตรวจอีกจำนวน 4 คลัสเตอร์ได้แก่ คลัสเตอร์ร้านภาสินี โรงงานกันตังพาราวู้ด โรงงานนาเมืองเพชรพาราวู้ด และคลัสเตอร์ผู้ต้องหาย่านตาขาว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook