รวบครูซี8หนองบัวลำภูลวงสาวค้ากามญี่ปุ่น

รวบครูซี8หนองบัวลำภูลวงสาวค้ากามญี่ปุ่น

รวบครูซี8หนองบัวลำภูลวงสาวค้ากามญี่ปุ่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบครูซี 8 หนองบัวลำภูลวงสาวค้ากามญี่ปุ่น อ้างพาไปทำงานเสิร์ฟรายได้งาม แฉถูกจับเซ็นต์สัญญาค้างหนี้ค่าเดินทาง ก่อนบีบขายตัวใช้หนี้ เจ้าตัวรับค่าหัวรายละ 7 แสน เหยื่อถูกตำรวจจับส่งกลับไทยความเลยแตก ตร.เผยส่งไปค้ากามยุโรป-เอเซีย

เหตุแม่พิมพ์ของชาติลวงสาวหน้าตาดีไปค้าประเวณีในต่างประเทศ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พ.ต.อ.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ รองผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ผบก.ปคม.) พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ผกก.3 บก.ปคม. ร่วมกันแถลงผลจับกุม นางจิรภัทร แรมลี อายุ 53 ปี อาจารย์ ซี 8 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดหนองบัวลำภู

เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญารัชดา ในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหาล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก้ตาม และกักขังหน่วงเหนี่ยว หรืกระทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.แก่นคูณ ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

พล.ต.ท.ไถง เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานจากสำนักงานตำรวจสากลญี่ปุ่น ว่ามีกระบวนการค้ามนุษย์จากประเทศไทยส่งหญิงสาวไปค้าประเวณีที่ประเทศญี่ปุ่น โดยสืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้จัดส่งหญิงสาวไปเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 และบังคับให้ค้าประเวณี แต่หญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อถูกตำรวจสากลญี่ปุ่นทำการช่วยเหลือออกมาได้แล้วส่งตัวกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2552

พล.ต.ท.ไถง กล่าวถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหารายนี้ว่า จะชักชวนหญิงสาวหน้าตาดีแล้วล่อลวงว่าสามารถส่งไปทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ หรือพนักงานในร้านอาหารที่ต่างประเทศ ทั้งแถบประเทศยุโรป ญี่ปุ่น ไต้หวัน และจีน ซึ่งอ้างว่ามีรายได้อย่างงาม เมื่อเหยื่อหลงเชื่อก็จะนัดเจรจาโดยจะออกค่าเครื่องบิน ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่นๆให้ หลังจากนั้นจะเป็นคนพาเหยื่อไปส่งยังประเทศดังกล่าว ก่อนจะประสานกับเอเย่นต์ในประเทศนั้นเพื่อส่งตัวหญิงสาวไป โดยผู้ต้องหาจะได้ค่าหัวคนละ 700,000 บาท จากนั้นจะพาตัวเหยื่อไปส่งให้กับเอเย่นต์ค้ากามโดยที่หญิงสาวไม่ทราบมาก่อน

"พอไปถึงประเทศนั้นๆ ทางเอเย่นต์ก็จะบังคับให้เหยื่อเซ็นสัญญาเพื่อใช้หนี้ในส่วนที่ทางเอเย่นต์จ่ายให้กับผู้ต้อหาไป เป็นจำนวนเงินประมาณ 1 ล้านบาท แล้วจึงบังคับให้เหยื่อขายตัวเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ ถ้ายังใช้หนี้ไม่หมดก็จะไม่ให้เดินทางกลับประเทศไทย จนกระทั่งมาถูกตำรสจสากลญี่ปุ่นบุกทลายแหล่งค้าประเวณีแล้วพบหญิงไทยซึ่งตกเป็นเหยื่อคนนี้ ก่อนจะช่วยเหลือส่งตัวกลับมาประเทศไทย เราสืบสวนพบว่าผู้ต้องหากระทำการลักษณะนี้กับเหยื่อมาแล้วหลายราย จนตัวผู้ต้องหาเองมีฐานะดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา" พล.ต.ท.ไถง กล่าว

พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานดังกล่าวแล้ว จึงได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหา และเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ และ พ.ต.ต.นนท์วาณัฐกริช กลิ่นพงศ์ สว.บก.ปคม.พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปคม.ได้เข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารภายในปั๊มน้ำมันดังกล่าว พร้อมด้วยของกลางสมุดบัญชีเงินฝากจำนวน 4 เล่ม สำเนาตั๋วเครื่องบิน จำนวน 4 ฉบับ และเอกสารอื่นๆ อีกรวม 12 รายการ ก่อนควบคุมตัวมาทำการสอบสวน

ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และขอใช้ตำแหน่งตัวเองประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยหากตีราคาแล้วเป็นหลักทรัพย์ประมาณ 200,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัว โดยจะให้ผู้ต้องหาไปประกันตัวในชั้นศาลเอง นอกจากนี้ ยังเชื่อว่าน่าจะมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook