ญาติวอนช่วย "น้องน้ำค้าง" กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา หลังฉีดวัคซีนโควิดไป 2 วัน
ญาติวอนช่วยเหลือ “น้องน้ำค้าง” เป็นเจ้าหญิงนิทราหลังฉีดวัคซีนโควิด ได้ 2 วัน ยันเป็นเสาหลักของครอบครัว มีภาระที่ต้องดูแลลูกและตายาย
จากกรณี นางสาวทิศกร หรือ น้องน้ำค้าง พันธ์สำโรง อายุ 29 ปี หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมืองโคราช ซึ่งภายหลังฉีดวัคซีนซิโนแวค 30 นาที ไม่ปรากฏอาการผิดปกติใดๆ
แต่ผ่านไป 2 วัน พบอาการผิดปกติขณะเดินจับจ่ายซื้อของที่ตลาดในเขต อ.ปักธงชัย ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หน่วยกู้ภัยฮุก 31 นครราชสีมา ได้เข้าช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลปักธงชัย ก่อนจะเคลื่อนย้ายส่งรักษาต่อที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา
ซึ่งจากผลเอกซเรย์พบมีเลือดออกในโพรงสมอง มีความผิดปกติในเส้นเลือดสมอง บริเวณของรอยต่อระหว่างเส้นเลือดแดงกับเส้นเลือดดำ ขณะนี้อาการยังไม่ดีขึ้น ซึ่งแพทย์ระบุว่า ความผิดปกตินี้พบไม่บ่อย ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการและไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน อาจเกิดความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด เกิดภาวะสมองบวมเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ขณะนี้แพทย์ได้ผ่าตัดระบายเลือดออกจากโพรงสมอง อยู่ในระหว่างพักฟื้นเป็นวันที่ 4 ผู้ป่วยยังไม่รู้สึกตัว ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และยังไม่พบการเชื่อมโยงเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีรายงานข้อมูลเกี่ยวกับอาการนี้หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญของกรมควบคุมโรคกำลังดำเนินการสอบสวนในประเด็นนี้เชิงลึกอยู่
ล่าสุด วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านของ น้องน้ำค้าง พบกับ นางสนอง เต็มกิ่ง อายุ 53 ปี ป้าของน้องน้ำค้าง เล่าว่า หลังจากฉีดวัคซีนซิโนแวค หลานสาวก็ไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ ยังใช้ชีวิตปกติ หลังจากนั้นได้ 2 วัน หลานไปตลาดซื้อของมาทำกับข้าว แล้วโทรศัพท์มาบอกว่า รู้สึกเหงื่อออกมากผิดปกติ แขนทั้งสองข้างชา ไม่มีแรง และรู้สึกจะเป็นลม
ทางบ้านจึงรีบไปที่ตลาด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าให้การช่วยเหลือก่อนนำส่งโรงพยาบาลปักธงชัย และส่งต่อไปที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาดังกล่าว ซึ่งยังไม่มีใครยืนยันได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร
โดยส่วนตัวหลานเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว คิดว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีนซิโนแวคอย่างแน่นอน ทั้งที่เพิ่งฉีดเข็มแรก เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวก็รู้สึกเป็นห่วง เพราะเจอหน้ากันเกือบทุกวัน ส่วนตนยังไม่ได้วัคซีน ก็ต้องขอคิดทบทวนใหม่อีกครั้งว่าจะฉีดหรือไม่ และขอให้น้องหายเร็วๆ
หลังจากนี้ ยายจะต้องดูแลหลาน ซึ่งเป็นลูกชายของน้องน้ำค้าง วัย 1 ขวบ 5 เดือนแทนไปก่อน อีกทั้งหลานก็บ่นคิดถึงแม่อยู่ตลอดเวลา และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยชีวิตให้น้องน้ำค้างนั้นกลับมามีชีวิตคืนอีกครั้ง