ไหนเงินเยียวยา 4 แสน? ครอบครัวชายวัย 50 ตายหลังฉีดวัคซีน เผยยังไม่ได้สักบาท

ไหนเงินเยียวยา 4 แสน? ครอบครัวชายวัย 50 ตายหลังฉีดวัคซีน เผยยังไม่ได้สักบาท

ไหนเงินเยียวยา 4 แสน? ครอบครัวชายวัย 50 ตายหลังฉีดวัคซีน เผยยังไม่ได้สักบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครอบครัวชายวัย 50 เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน เผยยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 4 แสนบาท ตามที่ สปสช. ประกาศ ยังไม่มีใครติดต่อมา

จากกรณี นพ.ชลอ ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 4 สระบุรี เปิดเผยว่า ในพื้นที่เขต 4 สระบุรี ซึ่งรับผิดชอบ 8 จังหวัดได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และนครนายก ได้มีการพิจารณาการจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหาย จากการรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้วจำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 469,500 บาท ทั้งนี้ แบ่งเป็นชาย 2 ราย และหญิง 6 ราย อายุระหว่าง 23-50 ปี โดยครึ่งหนึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย จำนวน 4 ราย เป็นอาการเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องนอนโรงพยาบาล 3 ราย และเสียชีวิต 1 ราย

โดยเกณฑ์การจ่ายในกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับการช่วยเหลือไม่เกิน 4 แสนบาท กรณีสูญเสียอวัยวะหรือพิการช่วยเหลือไม่เกิน 2.4 แสนบาท และกรณีเกิดภาวะเจ็บป่วยที่ต้องรับการรักษาไม่เกิน 1 แสนบาทสำหรับกรณีผู้ที่เสียชีวิตคือ นายสมชาย อายุ 50 ปี ซึ่งรับวัคซีนโควิด-19 ที่ จ.ปทุมธานี คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฯ มีความเห็นว่าได้รับความเสียหาย เป็นอาการที่เกิดหลังจากการรับวัคซีน มีอาการแน่นหน้าอกตลอด และเสียชีวิตหลังได้รับวัคซีน 5 วัน และผู้ได้รับผลกระทบเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องเป็นผู้ดูแลบิดา มารดา และเป็นผู้หารายได้หลัก จึงลงมติเสนอจ่ายเงินช่วยเหลือ 400,000 บาท

นพ.ชลอ กล่าวว่า การพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นนี้ไม่ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ เพราะใช้หลักการช่วยเหลือเบื้องต้นไม่ต้องพิสูจน์ถูกผิด แม้อาจเป็นเรื่องของเหตุสุดวิสัย และพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือไปแล้ว ภายหลังหากพิสูจน์ทางการแพทย์แล้วพบว่าไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็จะไม่มีการเรียกเงินคืน เนื่องจากถือว่าเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งเป็นกลไกทางสังคมในการให้ความช่วยเหลือ ไม่ใช่กลไกทางการแพทย์ที่พิสูจน์สาเหตุ จึงต้องมีความรวดเร็วเพื่อบรรเทาผลที่เกิดขึ้น "การช่วยเหลือนี้ครอบคลุมประชาชนไทยทุกคน ทุกสิทธิการรักษา ที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 เฉพาะที่รัฐบาลจัดหาให้เท่านั้น โดยหากได้รับความเสียหาย ได้รับผลกระทบ หรือเสียชีวิต สามารถยื่นคำร้องได้ทันที เมื่อคณะอนุกรรมการฯ ได้รับเรื่องและมีมติอนุมัติช่วยเหลือแล้วนั้น จะพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือภายใน 5 วัน ส่วนจะช่วยเหลือจำนวนเท่าใดนั้น เป็นการพิจารณาของอนุกรรมการฯ ตามภาวะความรุนแรง"

นพ.ชลอ กล่าวนพ.ชลอ กล่าวอีกว่า หากประชาชนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 สงสัยว่าจะมีอาการเจ็บป่วยที่มีเหตุจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 รวมถึงในกรณีที่เสียชีวิต ทั้งตัวผู้ฉีดวัคซีนหรือญาติสามารถยื่นคำร้องได้ที่โรงพยาบาลที่รับฉีดวัคซีน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสำนักงาน สปสช. ได้ทันที โดยจะมีคณะอนุกรรมการฯ ระดับพื้นที่พิจารณาคำร้อง หรือสามารถติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลได้ที่เฟซบุ๊ก สปสช.เขต 4 สระบุรี ตลอดเวลา

สำหรับเคสของ นายสมชาย อายุ 50 ปี รับวัคซีนโควิด-19 ที่จังหวัดปทุมธานี แล้วเกิดมีอาการแพ้ หายใจไม่ออกขณะออกไปหาปลา ทั้งๆ ที่ผู้ตายเป็นคนมีสุขภาพแข็งแรง ลูกชายนำศพตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดบางพัง ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  ญาติๆ เชื่อว่าสาเหตุมาจากการไปฉีดวัคซีนชิโนแวคแล้วแพ้ จนเกิดอาการและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. (3 มิ.ย 64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณซอยพระอินทร์ 1 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  พบนายสถาพร อายุ 27 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต หลังจากมีกรณีว่าทาง สปสช.จะจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้เสียชีวิต ซึ่งถือเป็นรายแรกจำนวน 4 แสนบาท แต่ทางผู้เสียหายยังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว และยังไม่มีหน่วยงานใดๆ ติดต่อเข้ามาถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม นายสถาพร เล่าวว่า ตนยืนยันว่ายังไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว และยังสงสัยว่าข่าวออกไปแบบนั้นได้อย่างไร แต่ถ้าจะเข้ามาเยียวยาตน ก็จะขอขอบคุณที่เข้ามาช่วยเหลือครอบครัว ตนมีบัญชีที่ไปยื่นกับทาง สปสช. ตอนนี้ยังไม่มีเงินเข้ามาตามที่ข่าวออกไป ซึ่งขณะที่ตนไปยื่นเพื่อขอรับเงินเยียวยาทาง สปสช. บอกว่าจะติดต่อกลับ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครติดต่อมา ซึ่งทาง สปสช.ได้ยืนยันว่าจ่ายแล้ว แต่ยังยืนยันว่ายังไม่ได้รับเงิน ถ้าได้เงินมาจริงตนจะขอขอบคุณที่ยังช่วยเหลือครอบครัวตน เพราะตอนนี้ยอมรับว่าลำบากมากเพราะต้องทำงานหนักและดูแลครอบครัวคนเดียว และยังหาทางออกไม่ได้เพราะปู่เป็นโรคไต และย่าเป็นโรคเบาหวานจึงต้องใช้เงินในการรักษา ตอนนี้ตนได้แค่รอ ถ้าได้รับเงินจริงจะขอบคุณทุกๆหน่วยงานที่ไม่ลืมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

นาย สมศักดิ์ อายุ 76 ปี เป็นพ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และอยากจะบอกกับลูกๆ หลานๆ ว่ายังไม่แนะนำให้ไปฉีดวัคซีน และยืนยันว่าจะไม่ฉีด ถ้าหากว่าได้เงินเยียวยามาจะดีใจมากเพราะตนอายุเยอะ และต้องเก็บของเก่าขายประทังชีวิต เพราะลูกชายตนเสียไปแล้วทำให้ลำบากหนักกว่าเดิม ต้องเช่าที่วัดอยู่ ตนยืนยันว่ายังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามที่ข่าวออกไป และมีแต่คนเข้ามาถามตนได้แต่รออย่างเดียว เพราะตนเป็นคนจน

นางทองย้อย ม่วงวัง อายุ 75 ปี เป็นแม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเงินและไม่มีใครติดต่อมา ตอนนี้ลูกชายไม่อยู่แล้วจึงต้องประหยัดและหารายได้เสริม ซึ่งยังคงคิดถึงลูกชายอยู่และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook