"สมศักดิ์" มั่นใจ คลัสเตอร์โควิด-19 ในเรือนจำลดลง หลังฉีดวัคซีน

"สมศักดิ์" มั่นใจ คลัสเตอร์โควิด-19 ในเรือนจำลดลง หลังฉีดวัคซีน

"สมศักดิ์" มั่นใจ คลัสเตอร์โควิด-19 ในเรือนจำลดลง หลังฉีดวัคซีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สมศักดิ์" มั่นใจ ปัญหาคลัสเตอร์โควิด-19 ในเรือนจำลดลง หลังฉีดวัคซีน เล็งเปลี่ยนกฎหมายยาเสพติดแก้ปัญหาจำนวนผู้ต้องขังลดแออัด

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ติดตามพร้อมเป็นประธานในพิธีเปิดการ ฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ผู้ต้องขัง ที่เรือนจำพิเศษพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อป้องกันแพร่ระบาดตามมาตรการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดระบาดในเรือนจำ

รมว.ยุติธรรม  กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีความต้องการให้ผู้ต้องขังในเรือนจำ กลุ่มเปราะบาง เช่น ในเรือนจำพิเศษพัทยา ซึ่งอยู่ในเมืองท่องเที่ยว คือจังหวัดชลบุรีต้องปลอดโควิด จึงเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ควบคู่ไปกับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศในวันที่ 7 มิถุนายนนี้ ซึ่งขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข ที่ทยอยส่งวัคซีนเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ขณะที่คลัสเตอร์ในเรือนจำที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิดเป็นจำนวนมากนั้น ตนมั่นใจว่าหลังจากได้รับวัคซีนยอดผู้ติดเชื้อจะลดลง และจากการดูแลรักษาพร้อมกับตัวเลขที่รายงานในแต่ละวัน อย่างเช่นวันนี้ประมาณ 300 กว่าคน เท่านั้น

ขณะที่ การบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำจังหวัดพื้นที่สีแดง แต่เป็นเรือนจำสีขาว คือยังไม่มีผู้ติดเชื้อ ประมาณ 38 เรือนจำ จำเป็นต้องใช้วัคซีนจำนวนพอสมควร จึงประสานขอวัคซีนกับกรมควบคุมแล้วซึ่งพร้อมทยอยส่งให้เร็วนี้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ต้องมีมาตรการป้องกันและเตรียมความพร้อมอย่างเข้มงวดในการฉีด

ขณะที่การแก้ไขเรื่องความหนาแน่นแออัดในเรือนจำ มีแผนจะเสนอร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยปรับมาตรฐานโทษใหม่ เช่น คดีนำยาบ้าข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เดิมมีโทษขั้นต่ำจำคุก 15 ปี ให้เปลี่ยนโทษตามดุลพินิจของศาล มีโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ซึ่งจะทำให้มีผู้ได้รับพักโทษหรือพ้นโทษออกไปสูงถึง 30,000 คน และในส่วนนี้จะจัดให้มีงานทำในนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ซึ่งเบื้องต้นได้หารือการสร้างนิคมฯกับทางหอการค้าแต่ละจังหวัดแล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook