"ราชทัณฑ์" เผย ผู้ต้องขังติดโควิดอีก 315 ราย จาก 14 เรือนจำ ชี้แนวโน้มเริ่มดีขึ้น

"ราชทัณฑ์" เผย ผู้ต้องขังติดโควิดอีก 315 ราย จาก 14 เรือนจำ ชี้แนวโน้มเริ่มดีขึ้น

"ราชทัณฑ์" เผย ผู้ต้องขังติดโควิดอีก 315 ราย จาก 14 เรือนจำ ชี้แนวโน้มเริ่มดีขึ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราชทัณฑ์ เผย ยอดโควิด-19 เพิ่มอีก 315 ราย จาก 14 เรือนจำ ชี้ แนวโน้มดีขึ้น รักษาหายแล้วเกินครึ่ง เข้มแผนสกัดเชื้อก่อนเข้าเรือนจำ พร้อมลุยฉีดวัคซีนต่อเนื่อง

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 315 ราย รักษาหายเพิ่ม 679 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 13,787 ราย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถาน พบว่ามีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ไม่พบการแพร่ระบาดเพิ่มรวมเป็นจำนวน 125 แห่ง และพบการแพร่ระบาดจำนวน 14 แห่งเท่าเดิม โดยแนวโน้มของยอดผู้ติดเชื้อจากการ SWAB เพื่อตรวจหาเชื้อซ้ำ เริ่มมีจำนวนที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จำนวนผู้ป่วยรักษาหายเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จนในขณะนี้มียอดผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมจำนวน 14,472 ราย หรือมากกว่า 50% ของผู้ป่วยสะสมที่ 28,404 ราย และคาดว่าสถานการณ์ในเรือนจำที่พบการแพร่ระบาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อจากนี้

ขณะที่ การวางแผนเพื่อป้องกันเชื้อจากภายนอก ในเรือนจำที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด จะดำเนินการตรวจหาเชื้อในผู้ต้องขังรับเข้าใหม่ทุกราย โดยในระหว่างรอผลจะมีห้องกักตัวแยกจากห้องกักโรคหลัก ซึ่งหากตรวจพบเชื้อ จะนำตัวไปรักษาที่สถานพยาบาลภายนอก หรือพื้นที่ควบคุมเฉพาะ ไม่นำตัวเข้าพื้นที่เรือนจำ/ทัณฑสถาน แต่หากตรวจไม่พบเชื้อ จะนำตัวเข้าห้องแยกกักโรคต่ออย่างน้อย 21 วัน และต้องตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผลก่อนครบระยะกักตัว ซึ่งคาดว่ามาตรการดังกล่าว จะสามารถป้องกันเชื้อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดภายในเรือนจำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน การดำเนินการฉีดวัคซีน นายอายุตม์ฯ กล่าวว่า จากการได้รับจัดสรรวัคซีนจากกรมควบคุมโรค ปัจจุบัน ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแล้วเสร็จ จำนวน 2 เรือนจำ คือ เรือนจำพิเศษมีนบุรีและเรือนจำจังหวัดภูเก็ต และอยู่ระหว่างดำเนินการฉีดวัคซีน 3 แห่ง คือ เรือนจำกลางสมุทรปราการ ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว 2 วัน ในผู้ต้องขังจำนวน 3,600 ราย จากทั้งหมด 6,000 กว่าราย

โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนครบเป้าหมายในวันที่ 6 มิถุนายน 2564 ซึ่งที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ต้องขังที่มีอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับวัคซีน 1 ราย ขณะนี้ได้รับการรักษาภายใต้ความดูแลของแพทย์เป็นที่เรียบร้อย และเรือนจำอีก 2 แห่งที่ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับผู้ต้องขังในวันนี้ ได้แก่ เรือนจำพิเศษพัทยา เริ่มฉีดจำนวน 480 ราย และทัณฑสถานบำบัดพิเศษจังหวัดปทุมธานี เริ่มฉีดจำนวน 400 ราย ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 มิถุนายน 2564

สำหรับแผนดำเนินการต่อจากนี้ กรมราชทัณฑ์ จะเริ่มการฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการควบคู่กับการฉีดวัคซีนทั่วประเทศในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 โดยขณะนี้ ได้ให้เรือนจำ ทัณฑสถาน เป้าหมายกลุ่มแรก คือ เรือนจำสีขาวที่ปลอดเชื้อ ในพื้นที่สีแดงเข้มและสีแดง ประมาณ 38 แห่ง เตรียมแผนการฉีดวัคซีนให้พร้อม รวมทั้งศึกษาแนวทางและข้อสังเกตจากเรือนจำที่ได้ดำเนินการฉีดไปแล้วเพื่อวางแผนการฉีดให้รัดกุม ทั้งการประสานขอความร่วมมือจากหน่วยงานภายนอก ในเรื่องของบุคลากรที่ใช้ในการฉีดวัคซีนให้พร้อม ตามแผนบริหารจัดการวัคซีนที่กรมราชทัณฑ์ได้ประสานกับกรมควบคุมโรคอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถฉีดวัคซีนที่ได้รับอย่างรวดเร็ว ไม่ตกค้าง มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

นายอายุตม์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ ขอขอบคุณทุกความร่วมมือ จากทุกหน่วยงาน และทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ที่ได้ร่วมสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งการสนับสนุนบุคลากรเพื่อต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงกำลังใจจากประชาชนที่ห่วงใยในการทำงานและสวัสดิภาพของผู้ต้องขังทุกราย ตลอดจนเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ จนทำให้ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในวันนี้ แม้ว่าการติดเชื้อยังคงมีอยู่ แต่เริ่มมีแนวโน้มของสถานการณ์ที่ดีขึ้น ทั้งการดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่เป็นระบบ การรักษาผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองที่ทันเวลา ทำให้ลดจำนวนของผู้ป่วยกลุ่มสีแดงลง ซึ่งจะช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ในที่สุด และคาดว่าสถานการณ์ต่อจากนี้จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อมีเจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังได้รับวัคซีนในจำนวนที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ และลดความรุนแรงของโรคได้เป็นอย่างดี

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook