"หญิงลี" เผยคำพูด "ลุงพล" ที่ค้างคาใจมานาน ทำไมเล่าตน กับให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกัน
วันที่ 5 มิ.ย.64 หญิงลี ศรีจุมพล หรือ น.ส. ธิดารัตน์ ศรีจุมพล อายุ 38 ปี นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง ได้ออกมาระบุ หลัง นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ถูกตำรวจจับกุมในคดีการเสียชีวิตของ "น้องชมพู่" ที่ จ.มุกดาหาร
โดยหญิงลี เผยว่าเมื่อวันที่ 31 ก.ค.2563 ที่ผ่านมา ลุงพลและทีมงานได้มาพักที่รีสอร์ทหญิงลี ที่ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมารู้จักตอนที่ มีทีมงานของลุงพล มาแนะนำตัวในตอนเช้าหลังจากเข้าพักได้ 1 คืน จากการสอบถามทราบว่า ลุงพลจะเดินทางไปที่วัดศรีษะแรด หรือวัดหงษ์ ที่ชาวบ้านรู้จักกันในนาม วัดพระเจ้าใหญ่ อยู่ใน ต.มะเฟือง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ เรื่องคำสาบาน ตอนนั้นรู้สึกชื่นชม และภูมิใจ ที่ลุงพลกล้าเดินทางมาสาบานที่วัดนี้
ในเวลานั้น ยอมรับว่า ส่วนตัวคิดว่าลุงพลอาจเป็นแพะ ตามสื่อออนไลน์ที่มีการวิจารณ์กันเป็นวงกว้าง มีความเห็นใจและอยากจะช่วยเหลือคนที่กำลังทุกข์ยากลำบาก ตามที่ตนเคยขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง มาก่อนหน้านี้ว่า ถ้าหญิงลีโด่งดังมีชื่อเสียง จะขอถวายตนเป็นคนช่วยเหลือสังคมและผู้ยากไร้เท่าที่ทำได้ ยอมรับว่าตอนนั้นตนลืมคิดถึงความรู้สึกของพ่อแม่น้องชมพู่
จากนั้นได้ติดต่อหางานให้ลุงพล ได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน แต่ไม่เคยขึ้นเวทีพร้อมกัน เพราะลุงพลยังเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ในขณะนั้น ทำงานร่วมกันประมาณ 1 สัปดาห์ ได้ค่าตัวครั้งละประมาณ 20,000-40,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดี จากการสังเกตระหว่างที่ทำงานด้วยกัน ลุงพลมักจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับน้องชมพู่ให้ฟัง และบางครั้งมักจะไปนั่งซึมเศร้า
ต่อมาตนได้เห็นภาพในข่าว เห็นว่า ลุงพลให้สัมภาษณ์ในข่าวว่า "วันที่น้องชมพูหายไป เป็นวันที่ตนไม่เห็นหน้าน้องชมพูเลย" ซึ่งเป็นคำพูดที่ขัดแย้งกับที่ลุงพลเคยเล่าให้ตนฟังว่า "วันเกิดเหตุ นั้นน้องชมพู่รบเร้าจะไปทำธุระกับตน แต่ตอนไม่ให้ไป ถ้าพาหลานไป หลานคงจะไม่เสียชีวิต" คำพูดคำนั้นทำให้ตนติดใจและค้างคาใจมาโดยตลอด
การออกมาพูดในครั้งนี้ ตนไม่ได้หวังที่จะไปทำร้ายใคร เพราะในทางกฎหมายก็ต้องถือว่า ลุงพลยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบเท่าที่ศาลยังไม่ตัดสิน แต่ที่ออกมาพูด เพราะไม่อยากจะมีอะไรติดค้างในใจ ถ้าไม่พูดเรื่องนี้ก็จะฝังอยู่ในใจตัวเองไปตลอดชีวิต
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ